“ตระหนักแต่ไม่ตระหนก” 2 ข้อควรรู้ สู้ทั้งฝุ่นทั้ง COVID แบบจิตไม่ตก ปี 2568

03 พ.ค. 64  | ศูนย์สุขภาพใจ ปรึกษาจิตแพทย์
แชร์บทความ      

 


ในภาวะที่ฝุ่น PM 2.5 กลับมาเข้าขั้นวิกฤตอีกครั้ง กองจัดการคุณภาพอากาศและเสียง สำนักสิ่งแวดล้อมรายงานผลการตรวจวัดฝุ่นละออง PM 2.5 แล้วพบว่า
เกินค่ามาตรฐานถึง 70 พื้นที่ทั่วทั้งกรุงเทพมหานคร บางจังหวัด เช่น เชียงใหม่ก็มีค่าฝุ่นสูงสุดถึง 87 - 153 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร บวกรวมกับสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ที่ยังคงวางใจไม่ได้ สุขภาพจิตและสุขภาพกายคือ 2 สิ่งที่รับผลกระทบสะสมตลอดมาและอาจเกิดปัญหาถ้าไม่ได้ดูแลอย่างใส่ใจ

ยิ่งไปกว่านั้นหากเราต้องเผชิญกับฝุ่นมากเข้าๆ เจ้าละอองเหล่านี้จะเข้าสู่ร่างกายทางปอดทะลุไปยังหลอดเลือดและเข้าไปรบกวนการทำงานของระบบประสาท
และสมองได้ ในประเด็นผลกระทบของ PM 2.5 และ COVID-19 ต่อทั้งสุขภาพกายและใจนี้ นายแพทย์สันติ เอื้อนรเศรษฐ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวิมุต พหลโยธิน
มีมุมมองที่น่าสนใจในประเด็นดังกล่าว 2 ข้อหลักๆ รู้แล้วจะได้หาทางรับมือและอยู่ได้อย่างมีสติ



ฝุ่นและไวรัสความเหมือนที่แตกต่าง
มองง่ายๆ ว่า ฝุ่นกับไวรัสมีส่วนที่คล้ายกันคือเป็นอนุภาคขนาดเล็กๆ ที่เรามองไม่เห็น ลอยอยู่ในอากาศ เพียงแต่ฝุ่นไม่มีชีวิต ไวรัสมีชีวิต เราก็เลยกลัวมันมากกว่า แต่วิธีป้องกันก็เหมือนกันเลยคือ อย่าสูดดมมันเข้าไปครับ อย่าให้มันเกาะกับตัวเรา ต้องใส่หน้ากาก อย่าจับใบหน้า อย่าขยี้ตาเพราะไวรัสมันติดต่อจากสารคัดหลั่งได้ แล้วต้องล้างมือเป็นประจำ ทีนี้มันจู่โจมเราที่ปอด เราต้องตั้งรับด้วยการดูแลปอดให้แข็งแรงก็จะช่วยลดความเสี่ยงลงได้" นายแพทย์กล่าว

ในด้านผลกระทบต่อสุขภาพจิตจากช่วงที่ COVID-19 ระบาดใหม่ๆ หลายคนก็กังวลว่า #เราติดหรือยังนะ มาจนถึงตอนนี้ก็ยังระแวงว่าจมูกเรายังรับกลิ่นไหม
ที่เลือดกำเดาไหลนี่คือเป็นเพราะฝุ่นจู่โจมเราหรือยัง ความคิดต่างๆ เหล่านี้ ทำให้เกิดความเครียดสะสม นายแพทย์สันติชี้แจงว่าเป็นปกติ เพียงแต่ต้องระวังไม่ให้รบกวนชีวิตประจำวันจนเกินไป

"การจะห้ามตัวเองไม่ให้นอยด์เลยมันทำได้ยากนะครับ เพราะมันค่อยเป็นค่อยไป เพราะปัญหามันสะสมมันไม่ได้ตูมตาม จริงๆ แล้วเราสามารถเสิร์ชในเว็บกรมสุขภาพจิตเพื่อทำแบบทดสอบได้เลยนะว่าเราเครียดไปไหมในช่วงที่เจอกับ COVID แต่หมอว่าเราไม่รู้ตัวหรอกส่วนมากจะคนข้างๆ ที่จะรู้ (หัวเราะ)
หมอมีหลักการง่ายๆ คือ ความกังวลของเรามันเริ่มรบกวนชีวิตประจำวันหรือยัง เช่น นอนไม่หลับ นอนยังไงก็ไม่พอ ปกติขับถ่ายได้ตอนนี้ท้องผูก หรือเริ่มไปหาเรื่องคนรอบข้างเรื่องไม่ใส่หน้ากาก หมอว่าอันนี้อาจจะเครียดไป อาจจะต้องตั้งหลักหรือปรึกษาแพทย์ดูครับ"



ลดความเครียดด้วย Social Media Detox
นอกจากนี้คุณยังสามารถทำกิจกรรมต่างๆ ในบ้านเพื่อดูแลสภาพจิตใจของตัวเองเพิ่มเติมจากการดูแลร่างกายซึ่งต้องทำเป็นกิจวัตรอยู่แล้วได้ ซึ่งนายแพทย์สันติแนะนำว่า Social Media Detox ก็ถือเป็นแนวทางที่น่าสนใจ

"หมอว่าเบื้องต้นคือ ลดการเสพข่าวสารลงหน่อย (หัวเราะ) อาจจะกำหนดช่วงเวลาจะได้ไม่กังวลมาก ถ้าจะใช้เวลาในโลกออนไลน์หมออยากให้เป็นการเอาความเครียดออกไปครับ ไม่ได้รับความเครียดเข้ามาเพิ่ม นอกจากนั้นทุกกิจกรรมง่ายๆ ที่ทำในบ้านได้แล้วเบี่ยงเบนความสนใจไม่ให้ไปโฟกัสกับความเครียดทำได้หมดเลย
อย่างปลูกต้นไม้นี่ท็อปฮิต ก็เป็นเรื่องดี แล้วก็ดูแลเรื่องสุขภาพให้พร้อมเอาไว้ครับ"

นอกจากจะใส่ใจสุขภาพจิตของตัวเองแล้ว ก็อย่าละเลยสุขภาพจิตของคนใกล้ตัว เพราะในสถานการณ์แบบนี้เรียกได้ว่าต่างคนต่างก็เครียด โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการเปิดเผย Timeline รายวันซึ่งนอกจากจะเป็นการเตือนภัยแล้วอีกนัยหนึ่งก็สร้างความกังวลในเวลาเดียวกัน ยิ่งสำหรับคนที่ติดเชื้อไปแล้ว หลายคนอาจอยู่ในภาวะถูกโจมตีทั้งจากคนรอบข้างและสังคมด้วย

"อีกฝั่งที่น่าห่วงคือคนที่ผล Positive แล้วต้องเปิดเผย Timeline หมอมองว่าก็ต้องไปดูแลจิตใจเขาด้วย เพราะเขาอาจจะดาวน์ รู้สึกผิดเพราะคิดว่าทำให้คนอื่น
เดือดร้อน ยิ่งถ้าเป็นคนในครอบครัวแล้ว หมอว่าต้องมองไปที่เจตนาครับ ถ้าเขาไม่ตั้งใจก็ต้องเข้าใจ คนเราโกรธได้แต่อย่าไป Aggressive ครับ ต้องให้กำลังใจกัน"

สุดท้ายแล้วความกังวลใจก็เป็นเรื่องเราทุกคนควรบริหารจัดการเป็นอันดับแรกเพื่อให้ดำเนินชีวิตต่อไปได้ราบรื่น ไม่กระทบกับรายได้และคนรอบข้าง ตามที่นายแพทย์สันติได้ทิ้งท้ายเอาไว้ว่า เปิดรับข้อมูลได้ แต่อย่าให้ข้อมูลวนกลับมาทำร้ายเราเอง

"ไม่แปลกที่คนเราจะกังวลครับ แต่อยู่ที่ว่าเราจะดึงตัวเองกลับไปได้หรือเปล่า ดังนั้นเกิดอะไรก็ตาม ขอให้ตระหนักแต่อย่าไปตระหนก แต่ไม่ต้องถึงขนาดหลอกตัวเองแค่พยายามมองในแง่ดี ทุกอย่างมีด้านดีเสมอ ต้องมองว่าเราเรียนรู้อะไรจากมันได้บ้าง”



ด้วยความปรารถนาดีจากโรงพยาบาลวิมุต พหลโยธิน

 

 

ทุกปัญหาสุขภาพ ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางออนไลน์ ที่พร้อมดูแลคุณด้วยความใส่ใจ


เรื่องสุขภาพน่ารู้ที่เกี่ยวข้อง

Card Image
เช็กอาการ…แบบนี้ใช่ซึมเศร้าไหม กับแบบทดสอบภาวะซึมเศร้า 9 ข้อ

หากคุณมีอาการเครียด นอนไม่หลับ เศร้า ซึม เบื่อหน่าย ร้องไห้บ่อย หรืออยากฆ่าตัวตาย มาเช็กสุขภาพจิตเบื้องต้นว่าเป็นซึมเศร้าไหม ด้วยแบบทดสอบภาวะซึมเศร้า 9 ข้อนี้กัน

อ่านเพิ่มเติม
Card Image
วิธีสร้างภูมิคุ้มกันทางใจ เหตุคนไทยเครียดซึมเศร้า ยังไม่ติดโควิดแต่สุขภาพจิตใกล้โคม่า

แต่ไหนแต่ไรมาปัญหาสุขภาพจิตก็ถือเป็นภัยที่คุกคามชีวิตของคนทั่วโลกอยู่แล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงการระบาดของ COVID-19 ที่ทำให้ผู้คนเกิดความเครียดเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ ในญี่ปุ่นมียอดการฆ่าตัวตายสูงถึง 17,000 ราย หลังจากเผชิญกับโรคไปได้แค่ 4 เดือน ในขณะที่ประเทศไทยก็มีอัตราการฆ่าตัวตายที่เพิ่มขึ้นถึง 22% และการระบาดระลอกใหม่นี้เอง จะเห็นได้ว่าผู้คนยิ่งมีความวิตกกังวลเพราะจำนวนผู้ติดเชื้อรายวันยังไม่มีท่าทีที่จะลดลง แต่ในขณะเดียวกันเราก็ยังต้องใช้ชีวิตประจำวัน ต้องออกจากบ้านไปทำงาน มีการพบเจอผู้คน ท่ามกลางความหวาดระแวงว่าจะติดเชื้อหรือไม่

อ่านเพิ่มเติม
Card Image
เข้าถึงโลกของผู้สูงอายุด้วยหัวใจ สร้างสุขภาพจิตอย่างไรให้เวิร์ก

ทำไมคนแก่ขี้งอนบ่อย น้อยใจเก่ง อารมณ์แปรปรวนบ่อยๆ ? มาทำความเข้าใจโลกของผู้สูงอายุให้มากขึ้น กับปัญหาสุขภาพจิตในผู้สูงอายุที่คนในครอบครัวต้องใส่ใจเป็นพิเศษ

อ่านเพิ่มเติม
Card Image
7 วิธีทำให้นอนหลับง่าย หลับสนิทตลอดคืน ตื่นมาสดใสจากคุณหมอ

7 เคล็ดลับช่วยให้คุณหลับง่าย หลับสนิทขึ้น แก้ปัญหานอนไม่หลับจากคุณหมอที่จะทำให้คนนอนหลับยากด้วยการปรับพฤติกรรมก่อนนอน ตื่นเช้ามาสดใส

อ่านเพิ่มเติม