อะดีโนไวรัส โรคติดเชื้ออันตราย พาหะร้ายในเด็กเล็ก - โรงพยาบาลวิมุต
ในช่วงที่โรคติดเชื้อมีการระบาดเพิ่มขึ้น เด็กเล็กมักเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบมากที่สุด เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันยังไม่สมบูรณ์ หนึ่งในโรคติดเชื้อที่พบได้บ่อยในเด็กคือ อะดีโนไวรัส (Adenovirus) ซึ่งเป็นไวรัสที่สามารถก่อให้เกิดการติดเชื้อในระบบต่างๆ ของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหาร หรือแม้กระทั่งดวงตา การรู้จักกับไวรัสชนิดนี้รวมถึงวิธีป้องกันและรักษา จึงสำคัญอย่างยิ่งสำหรับคุณพ่อคุณแม่และผู้ปกครอง
อะดีโนไวรัส โรคติดเชื้ออันตรายในเด็กเล็ก
อะดีโนไวรัส (Adenovirus) คือไวรัสที่ก่อให้เกิดโรคในระบบต่างๆ ของร่างกาย เช่น ระบบทางเดินหายใจ ระบบทางเดินอาหาร ดวงตา และระบบปัสสาวะ โดยไวรัสชนิดนี้สามารถพบได้ตลอดทั้งปี ซึ่งแตกต่างจากโรคไข้หวัดใหญ่ที่มักพบในช่วงฤดูหนาว นอกจากนี้ อะดีโนไวรัสยังสามารถแพร่กระจายได้ง่าย เพราะมีความทนทานต่อสภาพแวดล้อม สามารถอยู่รอดได้บนพื้นผิวต่างๆ เป็นเวลาหลายชั่วโมง ทำให้มีโอกาสในการติดเชื้อสูง
อะดีโนไวรัส มีอาการสำคัญอะไรบ้าง ?
อะดีโนไวรัสสามารถทำให้เกิดอาการได้หลากหลาย ขึ้นอยู่กับระบบของร่างกายที่ได้รับผลกระทบ โดยส่วนใหญ่มักเริ่มต้นจากการเป็นไข้ ตัวร้อน และหนาวสั่น ซึ่งอาการเหล่านี้อาจมีความรุนแรงแตกต่างกันไปในแต่ละบุคคล โดยเฉพาะในเด็กเล็กที่มีภูมิคุ้มกันยังไม่แข็งแรง อาการสำคัญที่พบได้บ่อยจากการติดเชื้ออะดีโนไวรัสมีดังนี้
- อาการที่เกี่ยวกับดวงตา
- ตาแดง ซึ่งอาจเกิดจากเยื่อบุตาอักเสบ
- มีน้ำตาไหล ปริมาณมากผิดปกติ
- เจ็บตา ระคายเคืองตา และอาจมีขี้ตาสีขาว เหลือง หรือเขียว
- อาการทางเดินหายใจ
- ไอแห้ง หรือไอแบบมีเสมหะ
- คัดจมูก หรือมีน้ำมูกไหล
- เจ็บคอ จากภาวะอักเสบในลำคอและบริเวณคอหอย
- หายใจลำบาก หรือมีอาการหอบเหนื่อย
- นอนกรน หรือมีภาวะอุดกั้นของทางเดินหายใจขณะหลับในบางราย
- อาการทางระบบทางเดินอาหาร
- อาจมีอาการท้องเสีย ปวดท้อง คลื่นไส้ และอาเจียน
อะดีโนไวรัส มีวิธีรักษาอย่างไร ?
ปัจจุบันยังไม่มียาต้านไวรัสที่จำเพาะสำหรับอะดีโนไวรัส การรักษาส่วนใหญ่เป็นการรักษาตามอาการและดูแลให้ร่างกายฟื้นตัวเอง อาทิเช่น
- บรรเทาอาการไข้ โดยการใช้ยาตามแพทย์สั่ง หรือตามเภสัชกร เช่น พาราเซตามอล หรือไอบูโพรเฟน เพื่อลดไข้
- ป้องกันภาวะขาดน้ำ โดยเฉพาะในกรณีที่มีอาการท้องเสียหรืออาเจียน ควรดื่มน้ำเยอะๆ หรือดื่มน้ำผสมสารละลายน้ำตาลเกลือแร่ (ORS) ในปริมาณเล็กน้อย
- ดูแลระบบทางเดินหายใจ โดยการให้ยาตามอาการ เช่น ยาแก้ไอละลายเสมหะ ยาแก้แพ้ลดน้ำมูก และหากมีอาการหายใจลำบากหรือหอบเหนื่อย อาจต้องได้รับการรักษาด้วย Oxygen หรือพ่นยาขยายหลอดลม หากพบอาการรุนแรง ควรพามาพบกุมารแพทย์เพื่อรักษาตัวในโรงพยาบาลในทันที
- พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายสามารถฟื้นฟูตัวเองได้
- รักษาความสะอาดของดวงตา หากมีขี้ตา หรือพบอาการตาแดง ควรหลีกเลี่ยงการขยี้ตา และใช้ยาหยอดตาตามคำแนะนำของแพทย์
แนวทางการป้องกันอะดีโนไวรัส
อะดีโนไวรัสสามารถติดต่อได้ง่ายผ่านการสัมผัสโดยตรงกับฝอยละอองที่มีเชื้อจากการไอหรือจาม และการรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำที่ปนเปื้อน รวมไปถึงการสัมผัสทางอ้อมจากพื้นผิวหรือสิ่งของที่ปนเปื้อนไวรัส ดังนั้น การป้องกันลูกน้อยให้ห่างไกลจากเชื้อโรคจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยมีแนวทางการป้องกันที่มีประสิทธิภาพและทำได้ง่ายๆ ดังนี้
- ล้างมือบ่อยๆ ด้วยสบู่หรือน้ำยาฆ่าเชื้อ โดยเน้นที่บริเวณฝ่ามือ หลังมือ ระหว่างนิ้ว และใต้เล็บ
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า มือของเราอาจสัมผัสกับพื้นผิวที่มีเชื้อโรคโดยไม่รู้ตัว การสัมผัสใบหน้าโดยเฉพาะบริเวณตา จมูก หรือปาก อาจทำให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้ง่ายขึ้น ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสใบหน้า
- หลีกเลี่ยงผู้ป่วย และการอยู่ในสถานที่แออัด หรือพื้นที่เสี่ยงจากการติดเชื้อ เพื่อลดความเสี่ยงในการรับเชื้อ
- ทำความสะอาดพื้นผิวที่สัมผัสบ่อยๆ รวมไปถึงเสื้อผ้าและของใช้ต่างๆ เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรค
- เสริมภูมิคุ้มกันให้ร่างกาย โดยการพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และรับประทานอาหารที่มีประโยชน์
อะดีโนไวรัสอาจเป็นโรคติดเชื้อที่ไม่อันตรายถึงชีวิตในผู้ใหญ่ แต่สำหรับเด็กเล็กแล้วอาจส่งผลกระทบรุนแรงได้หากไม่ได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม การป้องกันไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยลดความเสี่ยงและผลกระทบจากไวรัสนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากพบว่าผู้ป่วยมีอาการรุนแรง ควรรีบพาไปพบแพทย์ทันทีเพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและนัดหมายแพทย์ได้ที่
ศูนย์กุมารเวช ชั้น 3 โรงพยาบาลวิมุต เวลาทำการ 08.00 – 24.00 น. โทร. 0-2079-0038
หรือดาวน์โหลด ViMUT Application เพื่อนัดหมายแพทย์ หรือบริการปรึกษาหมอออนไลน์
ทุกปัญหาสุขภาพ ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางออนไลน์ ที่พร้อมดูแลคุณด้วยความใส่ใจ
แนะนำแพทย์ที่เกี่ยวข้อง

ชินธเนศ

ชินธเนศ

ชินธเนศ

ชินธเนศ

ชินธเนศ

ชินธเนศ
เรื่องสุขภาพน่ารู้ที่เกี่ยวข้อง

เด็กนอนกรน... อาจไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อันตรายที่ต้องรีบเช็กด่วน
ฝันร้ายของลูกน้อย... อาจมาจากเสียงเด็กนอนกรน! ที่อาจเสี่ยงหยุดหายใจขณะหลับ ชวนไขข้อข้องใจเรื่อง "นอนกรนในเด็ก" ที่พ่อแม่ควรรู้! เกิดจากอะไร กำลังบอกอะไรและอันตรายอย่างไร

ส่องสุขภาพเด็กอ้วนที่น่ารัก กับความอันตรายที่แอบแฝง
ในเด็กอ้วนที่ดูน่ารัก อาจกำลังเป็นเด็กที่เสี่ยงกับโรคอ้วนในเด็กได้ ชวนคุณพ่อคุณแม่มาดูอันตรายแฝงที่แอบซ่อนอยู่ในเด็กอ้วน พร้อมแนวทางการรักษากันได้ที่นี่

ลูกของคุณเสี่ยงมีพฤติกรรมคล้าย-ออทิสติกหรือไม่?
พฤติกรรมคล้ายออทิสติกหรือในสื่อสังคมมักเรียกว่า “ออทิสติกเทียม” เป็นภาวะที่เด็กขาด “การกระตุ้น” ในการสื่อสารสองทางโรคออทิสติก เกิดจากความผิดปกติของสมองเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ในขณะที่อาการออทิสติกเทียมจะเกิดจาก "ขาดการกระตุ้น" เป็นหลัก

เตรียมลูกรักให้ Ready เมื่อเปิดเทอมนี้ Covid มาเยือน
ช่วงที่ลูกต้องเรียนออนไลน์คุณพ่อแม่ก็วุ่นวายไปอีกแบบ แต่พอลูกน้อยไปโรงเรียนในสภาวะแบบนี้ความวุ่นวายก็กลับกลายเป็นความกังวล

เด็กนอนกรน... อาจไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อันตรายที่ต้องรีบเช็กด่วน
ฝันร้ายของลูกน้อย... อาจมาจากเสียงเด็กนอนกรน! ที่อาจเสี่ยงหยุดหายใจขณะหลับ ชวนไขข้อข้องใจเรื่อง "นอนกรนในเด็ก" ที่พ่อแม่ควรรู้! เกิดจากอะไร กำลังบอกอะไรและอันตรายอย่างไร

ส่องสุขภาพเด็กอ้วนที่น่ารัก กับความอันตรายที่แอบแฝง
ในเด็กอ้วนที่ดูน่ารัก อาจกำลังเป็นเด็กที่เสี่ยงกับโรคอ้วนในเด็กได้ ชวนคุณพ่อคุณแม่มาดูอันตรายแฝงที่แอบซ่อนอยู่ในเด็กอ้วน พร้อมแนวทางการรักษากันได้ที่นี่

ลูกของคุณเสี่ยงมีพฤติกรรมคล้าย-ออทิสติกหรือไม่?
พฤติกรรมคล้ายออทิสติกหรือในสื่อสังคมมักเรียกว่า “ออทิสติกเทียม” เป็นภาวะที่เด็กขาด “การกระตุ้น” ในการสื่อสารสองทางโรคออทิสติก เกิดจากความผิดปกติของสมองเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ในขณะที่อาการออทิสติกเทียมจะเกิดจาก "ขาดการกระตุ้น" เป็นหลัก

เตรียมลูกรักให้ Ready เมื่อเปิดเทอมนี้ Covid มาเยือน
ช่วงที่ลูกต้องเรียนออนไลน์คุณพ่อแม่ก็วุ่นวายไปอีกแบบ แต่พอลูกน้อยไปโรงเรียนในสภาวะแบบนี้ความวุ่นวายก็กลับกลายเป็นความกังวล

ลูกของคุณเสี่ยงมีพฤติกรรมคล้าย-ออทิสติกหรือไม่?
พฤติกรรมคล้ายออทิสติกหรือในสื่อสังคมมักเรียกว่า “ออทิสติกเทียม” เป็นภาวะที่เด็กขาด “การกระตุ้น” ในการสื่อสารสองทางโรคออทิสติก เกิดจากความผิดปกติของสมองเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ในขณะที่อาการออทิสติกเทียมจะเกิดจาก "ขาดการกระตุ้น" เป็นหลัก

เตรียมลูกรักให้ Ready เมื่อเปิดเทอมนี้ Covid มาเยือน
ช่วงที่ลูกต้องเรียนออนไลน์คุณพ่อแม่ก็วุ่นวายไปอีกแบบ แต่พอลูกน้อยไปโรงเรียนในสภาวะแบบนี้ความวุ่นวายก็กลับกลายเป็นความกังวล

เด็กนอนกรน... อาจไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อันตรายที่ต้องรีบเช็กด่วน
ฝันร้ายของลูกน้อย... อาจมาจากเสียงเด็กนอนกรน! ที่อาจเสี่ยงหยุดหายใจขณะหลับ ชวนไขข้อข้องใจเรื่อง "นอนกรนในเด็ก" ที่พ่อแม่ควรรู้! เกิดจากอะไร กำลังบอกอะไรและอันตรายอย่างไร

ส่องสุขภาพเด็กอ้วนที่น่ารัก กับความอันตรายที่แอบแฝง
ในเด็กอ้วนที่ดูน่ารัก อาจกำลังเป็นเด็กที่เสี่ยงกับโรคอ้วนในเด็กได้ ชวนคุณพ่อคุณแม่มาดูอันตรายแฝงที่แอบซ่อนอยู่ในเด็กอ้วน พร้อมแนวทางการรักษากันได้ที่นี่