ถ่ายเป็นเลือด! สัญญาณเตือนบอกโรคอะไรได้บ้าง
หลายคนคงเคยได้ยินกันมาว่าลักษณะของอุจจาระสามารถบ่งบอกสุขภาวะของร่างกายได้ หากร่างกายเกิดความผิดปกติอุจจาระจะมีลักษณะหรือสีที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม แต่ถ้าใครพบว่ามีอาการถ่ายเป็นเลือด ไม่ว่าจะเป็นสีแดงสด แดงคล้ำ หรือถ่ายดำ ทั้งหมดนี้หมายถึงการเกิดภาวะเลือดออกในทางเดินอาหาร ซึ่งเกิดได้จากหลายสาเหตุ และอาจเป็นสัญญาณเตือนสำคัญจากโรคร้ายในร่างกาย ที่ไม่ใช่แค่ริดสีดวง! มาตามหาคำตอบไปพร้อมกันว่าการถ่ายเป็นเลือดเกิดจากโรคอะไรได้บ้าง
อาการถ่ายเป็นเลือดเกิดจากอะไรได้บ้าง?
อาการถ่ายเป็นเลือดเป็นอาการที่บ่งบอกถึงการมีเลือดออกในทางเดินอาหาร ซึ่งเกิดจากความผิดปกติตั้งแต่หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็ก ลำไส้ใหญ่ จนถึงทวารหนัก ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ตั้งแต่ภาวะที่ไม่รุนแรงจนถึงภาวะที่ต้องการการรักษาอย่างเร่งด่วน หากคุณมีอาการถ่ายเป็นเลือดควรสังเกตความเปลี่ยนแปลงของอุจจาระหรืออาการร่วมอื่นๆ ด้วย เช่น อุจจาระเป็นสีแดงสด แดงคล้ำ หรือสีดำ เนื่องจากสามารถช่วยบอกตำแหน่งของทางเดินอาหารที่มีเลือดออกได้ จำนวนครั้งที่ถ่ายเพื่อใช้ในการประเมินความรุนแรง มีอาการเจ็บบริเวณก้นขณะถ่าย คลำพบก้อนหรือติ่งเนื้อที่บริเวณทวารหนัก และอาการปวดท้องที่เกิดร่วมกับถ่ายเป็นเลือด เป็นต้น เพื่อให้แพทย์สามารถใช้เป็นข้อมูลในการตรวจวินิจฉัยและรักษาได้อย่างถูกต้อง
ถ่ายเป็นเลือด… สัญญาณบอกโรคใดบ้าง?
เนื่องจากทางเดินอาหารของเราประกอบด้วยหลายอวัยวะ และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้ถ่ายเป็นเลือดได้ทั้งหมด จึงขอกล่าวถึงโรคที่พบบ่อยตามตำแหน่งที่สามารถเกิดเลือดออกได้ ดังนี้
1. ภาวะเลือดออกในทางเดินอาหารส่วนต้น
ทางเดินอาหารส่วนต้นของร่างกายคนเรา ได้แก่ หลอดอาหาร กระเพาะอาหาร ลำไส้เล็กส่วนต้น ผู้ป่วยที่มีเลือดออกบริเวณทางเดินอาหารส่วนต้นอาจมีอาการอาเจียนเป็นเลือด หรือถ่ายเป็นสีดำเหนียวคล้ายยางมะตอยได้ แต่หากมีเลือดออกในปริมาณมากและรวดเร็วก็สามารถถ่ายเป็นเลือดสีแดง และทำให้ความดันโลหิตต่ำหรือช็อคได้ สาเหตุที่พบได้บ่อยมี ดังนี้
1.1 แผลในกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กส่วนต้น ความรุนแรงของการเกิดเลือดออกขึ้นอยู่กับลักษณะของแผล สาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย Helicobacter pylori (H. pylori) หรืออาจเกิดจากการใช้ยาแก้ปวดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDS)
1.2 ภาวะเส้นเลือดโป่งพองในหลอดอาหารหรือกระเพาะอาหารแตก ส่วนใหญ่มักพบในผู้ป่วยตับแข็ง และมาพร้อมอาการอาเจียนเป็นเลือดสด ผู้ป่วยมักเสียเลือดในปริมาณที่มากและรวดเร็ว ร่วมกับถ่ายเป็นเลือดได้
1.3 มะเร็งกระเพาะอาหาร ผู้ป่วยมักมาด้วยอาการปวดท้องเรื้อรัง น้ำหนักลดไม่ทราบสาเหตุ ซีดจากการขาดธาตุเหล็ก อาเจียนเป็นเลือดหรือน้ำสีดำ และถ่ายดำ เป็นต้น
2. ภาวะเลือดออกในทางเดินอาหารส่วนกลาง
เป็นภาวะที่พบได้ไม่บ่อยนักที่ผู้ป่วยจะมีเลือดออกบริเวณลำไส้เล็ก อาจมาพร้อมกับภาวะซีดจากการขาดธาตุเหล็ก ถ่ายดำ หรือถ่ายเป็นสีแดงคล้ำ ขึ้นอยู่กับตำแหน่งและปริมาณเลือดที่ออก สาเหตุที่พบได้ส่วนใหญ่มาจากแผลในลำไส้เล็กซึ่งมักเกิดจากการใช้ยาแก้ปวดที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ เส้นเลือดที่ผิดปกติในลำไส้ การเกิดภาวะลำไส้อักเสบเรื้อรัง (Crohn’s disease) และเนื้องอกในลำไส้เล็ก
3. ภาวะเลือดออกในทางเดินอาหารส่วนล่าง
เป็นภาวะที่ผู้ป่วยมีเลือดออกบริเวณลำไส้ใหญ่และทวารหนัก และมักจะมีอาการถ่ายเป็นเลือดสีแดงคล้ำ หรือสีแดงสด หากเลือดออกบริเวณทวารหนักจะเป็นสีแดงสดแยกกับอุจจาระ โดยสาเหตุที่พบได้บ่อยมี ดังนี้
3.1 ริดสีดวงทวาร
โรคริดสีดวงทวาร เกิดจากการโป่งพองของกลุ่มเส้นเลือดดำที่อยู่ใต้ผิวของเยื่อบุผนังทวารหนัก เมื่อมีการเบ่งถ่ายอุจจาระแรงๆ สามารถทำให้เกิดการถ่ายเป็นเลือดสีแดงสดแยกกับเนื้ออุจจาระ มีเลือดฉาบบนผิวอุจจาระ หรือมีเลือดแดงสดหยดตามออกมาหลังอุจจาระเสร็จ โดยสีอุจาระจะมีความปกติทุกอย่าง หรือบางคนอาจคลำพบก้อนนูนของริดสีดวงบริเวณปากทวารหนัก สร้างความเจ็บปวดขณะนั่งหรือทำกิจกรรมต่างๆ
3.2 แผลปริที่ขอบทวารหนัก
เป็นรอยฉีกหรือแผลเปิดขนาดเล็กที่เกิดขึ้นบริเวณเยื่อบุทวารหนัก ซึ่งอาจทำให้มีเลือดแดงสดออกมาเวลาถ่ายอุจจาระคล้ายริดสีดวง แต่จะเกิดอาการเจ็บบริเวณก้นขณะที่ถ่าย มักเกิดในผู้ที่มีอาการท้องผูก ถ่ายอุจจาระเป็นก้อนแข็งหรือมีขนาดใหญ่
3.3 มะเร็งลำไส้ใหญ่
โรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ส่วนใหญ่มักจะพบในกลุ่มคนอายุมากกว่า 50 ปี เป็นสาเหตุของการเสียชีวิตที่พบได้บ่อยในปัจจุบัน ผู้ป่วยอาจมาด้วยมีลักษณะของการขับถ่ายที่เปลี่ยนไป ท้องผูกสลับท้องเสีย อุจจาระลำเล็กลง ปวดเบ่งถ่ายไม่สุด ถ่ายเป็นเลือด หรือถ่ายดำ น้ำหนักลดโดยไม่ทราบสาเหตุ เป็นต้น
3.4 โรคติ่งเนื้องอกลำไส้ใหญ่
เป็นเนื้องอกที่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกส่วนของลำไส้และยังพัฒนาไปเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ด้วย บางครั้งจะมีอาการเลือดออกบริเวณติ่งเนื้อ และอาจมีอาการเป็นๆ หายๆ
3.5 โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง
โรคลำไส้อักเสบเรื้อรัง (Inflammatory bowel disease) เป็นโรคที่มีการอักเสบเรื้อรังของทางเดินอาหารที่ยังไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด ทำให้เกิดแผลในลำไส้เรื้อรัง ผู้ป่วยมักมาด้วยอาการปวดท้องเรื้อรัง ถ่ายเป็นเลือดสด หรือมูกปนเลือด เป็นไข้ น้ำหนักลด หรือมีอาการร่วมอย่างอื่นเช่น ข้ออักเสบ ตาอักเสบ
อาการอุจจาระเป็นเลือดรุนแรงที่ควรมาพบแพทย์
หากพบว่าอาการถ่ายเป็นเลือดยังคงเป็นๆ หายๆ ไม่ควรนิ่งนอนใจ เพราะหากปล่อยไว้อาจนำไปสู่อาการที่รุนแรงยิ่งขึ้น โดยเฉพาะถ้าสังเกตพบว่ามีอาการดังต่อไปนี้ แนะนำให้รีบไปพบแพทย์โดยเร็ว
- มีอาการปวดเบ่ง อุจจาระจะออกมาพร้อมกับมูกเลือด
- ลักษณะของอุจจาระจะเป็นก้อนเรียวเล็กผิดจากปกติ
- อุจจาระมีสีออกแดงๆ ไปถึงดำ เนื้อค่อนข้างเหลว และมีกลิ่นเหม็นมากกว่าปกติ
- มีเลือดออกปริมาณมาก
- น้ำหนักลด เบื่ออาหาร
จะเห็นได้ว่าอาการถ่ายเป็นเลือดสามารถส่งผลต่อการเกิดโรคอันตรายต่างๆ มากมาย เพื่อป้องกันการเกิดโรคที่ร้ายแรงและอาจนำไปสู่การรักษาที่ซับซ้อนมากขึ้น แนะนำว่าเมื่อมีอาการถ่ายเป็นเลือด ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อสืบหาต้นเหตุของอาการว่ามาจากโรคใด และอาจพิจารณาการส่องกล้องตรวจทางเดินอาหาร เพื่อจะได้วินิจฉัยและรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสม
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและนัดหมายแพทย์ได้ที่
ศูนย์ทางเดินอาหารและตับ ชั้น 5 โรงพยาบาลวิมุต
เวลาทำการ 08:00 - 20:00 น. โทร. 02-079-0054
หรือดาวน์โหลด ViMUT Application เพื่อนัดหมายแพทย์ หรือบริการปรึกษาหมอออนไลน์
ทุกปัญหาสุขภาพ ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางออนไลน์ ที่พร้อมดูแลคุณด้วยความใส่ใจ

แนะนำแพทย์ที่เกี่ยวข้อง

จิริยะสิน

จิริยะสิน

จิริยะสิน

จิริยะสิน

จิริยะสิน

จิริยะสิน
เรื่องสุขภาพน่ารู้ที่เกี่ยวข้อง

มะเร็งลำไส้ใหญ่ อาการแบบไหนต้องระวัง รีบเช็กด่วน!
ปวดท้องบ่อย ท้องผูกบ่อยและมีเลือดออกมาพร้อมอุจจาระ อาการแบบนี้คุณอาจกำลังเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ มาเช็กอาการและสัญญาณเตือนของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่กันได้ที่นี่

ปวดท้องบิดเกร็ง อาจะเป็น “ลำไส้แปรปรวน” ที่ทำให้ชีวิตคุณต้องชะงัก
ปวดท้องบิดเกร็ง บริเวณตรงกลางหรือท้องน้อย เป็นๆหายๆ ถ่ายไม่ออก ท้องเสียไม่พัก อาการแบบนี้เสี่ยงเป็นโรคลำไส้แปรปรวนรึเปล่า? เพราะอาการเหล่านี้มักรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ชวนทุกคนมาสังเกตอาการไปพร้อมกับเรา

ไขมันพอกตับ ภาวะอันตรายที่คุณเสี่ยงแค่ไหน? มาเช็กกัน !
ไขมันพอกตับ ภาวะร้ายทำลายตับ ที่อาจทำให้คุณเสี่ยงเป็นตับอักเสบ ตับแข็งและมะเร็งตับได้ ชวนคุณสังเกตอาการได้อย่างไร การตรวจและการรักษาทำอย่างไร เรามีข้อมูลมาให้แล้ว

“ท้องผูก” ปวดท้อง ปัญหาการถ่ายที่ไม่ใช่เพียงแค่… ถ่ายไม่ออก!
ถ่ายไม่ออก อุจจาระแข็ง นานๆ จะถ่าย หรือทั้งสัปดาห์ถ่ายครั้งเดียว แบบนี้เป็นโรคท้องผูกไหม เรารวมข้อมูลสาเหตุและวิธีแก้ท้องผูก สำหรับคนที่มีปัญหาการขับถ่ายมาฝากแล้ว

มะเร็งลำไส้ใหญ่ อาการแบบไหนต้องระวัง รีบเช็กด่วน!
ปวดท้องบ่อย ท้องผูกบ่อยและมีเลือดออกมาพร้อมอุจจาระ อาการแบบนี้คุณอาจกำลังเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ มาเช็กอาการและสัญญาณเตือนของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่กันได้ที่นี่

ปวดท้องบิดเกร็ง อาจะเป็น “ลำไส้แปรปรวน” ที่ทำให้ชีวิตคุณต้องชะงัก
ปวดท้องบิดเกร็ง บริเวณตรงกลางหรือท้องน้อย เป็นๆหายๆ ถ่ายไม่ออก ท้องเสียไม่พัก อาการแบบนี้เสี่ยงเป็นโรคลำไส้แปรปรวนรึเปล่า? เพราะอาการเหล่านี้มักรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ชวนทุกคนมาสังเกตอาการไปพร้อมกับเรา

ไขมันพอกตับ ภาวะอันตรายที่คุณเสี่ยงแค่ไหน? มาเช็กกัน !
ไขมันพอกตับ ภาวะร้ายทำลายตับ ที่อาจทำให้คุณเสี่ยงเป็นตับอักเสบ ตับแข็งและมะเร็งตับได้ ชวนคุณสังเกตอาการได้อย่างไร การตรวจและการรักษาทำอย่างไร เรามีข้อมูลมาให้แล้ว

“ท้องผูก” ปวดท้อง ปัญหาการถ่ายที่ไม่ใช่เพียงแค่… ถ่ายไม่ออก!
ถ่ายไม่ออก อุจจาระแข็ง นานๆ จะถ่าย หรือทั้งสัปดาห์ถ่ายครั้งเดียว แบบนี้เป็นโรคท้องผูกไหม เรารวมข้อมูลสาเหตุและวิธีแก้ท้องผูก สำหรับคนที่มีปัญหาการขับถ่ายมาฝากแล้ว

ไขมันพอกตับ ภาวะอันตรายที่คุณเสี่ยงแค่ไหน? มาเช็กกัน !
ไขมันพอกตับ ภาวะร้ายทำลายตับ ที่อาจทำให้คุณเสี่ยงเป็นตับอักเสบ ตับแข็งและมะเร็งตับได้ ชวนคุณสังเกตอาการได้อย่างไร การตรวจและการรักษาทำอย่างไร เรามีข้อมูลมาให้แล้ว

“ท้องผูก” ปวดท้อง ปัญหาการถ่ายที่ไม่ใช่เพียงแค่… ถ่ายไม่ออก!
ถ่ายไม่ออก อุจจาระแข็ง นานๆ จะถ่าย หรือทั้งสัปดาห์ถ่ายครั้งเดียว แบบนี้เป็นโรคท้องผูกไหม เรารวมข้อมูลสาเหตุและวิธีแก้ท้องผูก สำหรับคนที่มีปัญหาการขับถ่ายมาฝากแล้ว

มะเร็งลำไส้ใหญ่ อาการแบบไหนต้องระวัง รีบเช็กด่วน!
ปวดท้องบ่อย ท้องผูกบ่อยและมีเลือดออกมาพร้อมอุจจาระ อาการแบบนี้คุณอาจกำลังเสี่ยงโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่ได้ มาเช็กอาการและสัญญาณเตือนของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่กันได้ที่นี่

ปวดท้องบิดเกร็ง อาจะเป็น “ลำไส้แปรปรวน” ที่ทำให้ชีวิตคุณต้องชะงัก
ปวดท้องบิดเกร็ง บริเวณตรงกลางหรือท้องน้อย เป็นๆหายๆ ถ่ายไม่ออก ท้องเสียไม่พัก อาการแบบนี้เสี่ยงเป็นโรคลำไส้แปรปรวนรึเปล่า? เพราะอาการเหล่านี้มักรบกวนการใช้ชีวิตประจำวัน ชวนทุกคนมาสังเกตอาการไปพร้อมกับเรา