อากาศเปลี่ยนแปลงบ่อย ระวัง! ‘หลอดลมอักเสบ’ ภาวะอันตรายที่เกิดได้ทุกวัย

19 มิ.ย. 68  | ศูนย์สุขภาพปอด
แชร์บทความ      

“หลอดลมอักเสบ” เป็นหนึ่งในโรคทางระบบทางเดินหายใจที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นเด็ก ผู้ใหญ่ หรือผู้สูงอายุ โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจส่งผลให้มีอาการไอและมีเสมหะจำนวนมากจนรบกวนการใช้ชีวิตประจำวันของผู้ป่วยได้ บทความนี้จะพาไปรู้จักโรคหลอดลมอักเสบเกิดจากอะไร มีอาการอย่างไรบ้าง เพื่อรับมือและป้องกันอย่างถูกวิธี

รู้จัก โรคหลอดลมอักเสบคืออะไร ?

โรคหลอดลมอักเสบ (Bronchitis) คือโรคที่เกิดจากภาวะอักเสบของเยื่อบุหลอดลมในระบบทางเดินหายใจส่วนล่าง ทำให้ต่อมเมือก (mucous gland) โตขึ้น และหลั่งเมือกออกมามากกว่าปกติ กระทั่งเกิดเป็นการอุดตัน ส่งผลให้ช่องทางเดินหลอดลมตีบแคบ เกิดอาการไอ หายใจลำบากและมีเสมหะ ซึ่งโรคหลอดลมอักเสบสามารถเกิดขึ้นได้ในทุกช่วงวัย โดยเฉพาะในผู้ที่มีภูมิคุ้มกันอ่อนแอหรือสัมผัสกับสารก่อระคายเคืองบ่อยๆ และมักพบได้บ่อยในช่วงฤดูฝนและฤดูหนาว 

หลอดลมอักเสบ มีอาการอย่างไร ?

โรคหลอดลมอักเสบสามารถแสดงอาการได้หลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรงและระยะเวลาของโรค ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการเล็กน้อยและสามารถหายได้เองภายในไม่กี่วัน ในขณะที่บางรายอาจมีอาการรุนแรงและกินเวลายาวนาน โดยทั่วไปมีอาการสำคัญที่พบได้บ่อย ดังนี้

  • ไอแห้ง หรือไอมีเสมหะ ซึ่งอาจมีสีใส ขาว เหลือง หรือเขียว
  • หายใจมีเสียงหวีด หรือรู้สึกแน่นหน้าอก
  • มีไข้ต่ำๆ หรือรู้สึกหนาวสั่น
  • เจ็บคอ หรือเสียงแหบ
  • อ่อนเพลีย หรือรู้สึกไม่สบายตัว
  • หายใจลำบาก โดยเฉพาะเมื่อออกแรง

⚠️ หากอาการเหล่านี้ดำเนินต่อเนื่องเป็นเวลานานหรือมีอาการรุนแรง

ควรรีบพบแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสมโดยทันที

 

สาเหตุสำคัญของโรคหลอดลมอักเสบ

โรคหลอดลมอักเสบสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ ซึ่งส่วนใหญ่มักเกี่ยวข้องกับการติดเชื้อหรือการสัมผัสสารระคายเคืองต่าง ๆ สาเหตุหลักที่พบได้บ่อยมีดังนี้

  • การติดเชื้อไวรัส เป็นสาเหตุหลักของโรคหลอดลมอักเสบ โดยเฉพาะไวรัสที่ทำให้เกิดไข้หวัดและไข้หวัดใหญ่ เช่น ไวรัส RSV (Respiratory Syncytial Virus)
  • การติดเชื้อแบคทีเรีย แม้จะพบได้น้อยกว่า แต่การติดเชื้อแบคทีเรียบางชนิดก็สามารถทำให้เกิดโรคหลอดลมอักเสบได้
  • สารระคายเคืองทางเดินหายใจ เช่น ควันบุหรี่ มลพิษทางอากาศ ฝุ่นละออง และสารเคมี ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบของหลอดลม
  • โรคหอบหืด ที่หลอดลมอักเสบมักถูกกระตุ้นจากสารก่อภูมิแพ้

โรคหลอดลมอักเสบมีกี่ชนิด

โรคหลอดลมอักเสบ สามารถแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่

  1. หลอดลมอักเสบเฉียบพลัน (Acute Bronchitis) มักมีสาเหตุหลักจากการติดเชื้อไวรัส ส่งผลให้หลอดลมเกิดการบวม อักเสบ อาการมักปรากฏภายในไม่กี่วัน และใช้เวลาประมาณ 1-3 สัปดาห์ กว่าจะหายขาด
  2. หลอดลมอักเสบเรื้อรัง (Chronic Bronchitis) มักเกิดจากการได้รับสารที่ก่อให้เกิดการระคาย เช่น ควันบุหรี่ ฝุ่นละออง หรือมลพิษทางอากาศเป็นระยะเวลานาน ส่งผลให้มีอาการไอเรื้อรังกว่า 3 เดือน จนถึง 1 ปี หรือนานกว่านั้น

ปัจจัยเสี่ยงของโรคหลอดลมอักเสบ

การเกิดโรคหลอดลมอักเสบอาจมีปัจจัยเสี่ยงหลายประการ ซึ่งบางปัจจัยอาจเกิดจากการใช้ชีวิต หรือสภาพแวดล้อม ในขณะที่บางปัจจัยอาจเกิดจากโรคประจำตัว ดังนี้

  • การสูบบุหรี่ หรือได้รับควันบุหรี่มือสอง การสูบบุหรี่เป็นปัจจัยเสี่ยงอันดับต้นๆ ที่ทำให้เกิดการอักเสบของหลอดลม
  • ภาวะภูมิคุ้มกันอ่อนแอ เช่น ผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีโรคประจำตัว มีโอกาสเกิดการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น
  • การสัมผัสกับมลพิษทางอากาศ เช่น ฝุ่น ควันเสียจากยานพาหนะ และสารเคมีจากโรงงานอุตสาหกรรม
  • โรคประจำตัวเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคหืด หรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
  • การเปลี่ยนแปลงของอากาศ โดยเฉพาะช่วงที่อากาศเย็นลง ก็เป็นปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้อาการของโรคแย่ลงได้

การวินิจฉัยโรคหลอดลมอักเสบ

การวินิจฉัยโรคหลอดลมอักเสบทำได้โดยการซักประวัติทางการแพทย์และตรวจร่างกายอย่างละเอียด โดยแพทย์จะพิจารณาจากอาการของผู้ป่วยและอาจใช้วิธีการตรวจเพิ่มเติมเพื่อให้แน่ใจว่าอาการไม่ได้เกิดจากโรคอื่นๆ ที่มีลักษณะคล้ายกัน เช่น โรคปอดอักเสบหรือโรคหอบ หืด ซึ่งการตรวจวินิจฉัยได้แก่

  • การตรวจร่างกาย โดยแพทย์จะฟังเสียงปอดเพื่อตรวจสอบเสียงผิดปกติ เช่น เสียงหวีด หรือเสียงครืดคราดที่อาจบ่งบอกถึงการอักเสบของหลอดลม
  • การเอกซเรย์ปอด ใช้ในกรณีที่แพทย์สงสัยว่าอาการอาจเกิดจากโรคอื่น เช่น ปอดอักเสบ หรือโรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง
  • การตรวจเสมหะ แพทย์อาจนำเสมหะไปตรวจหาเชื้อแบคทีเรียหรือไวรัส เพื่อช่วยแยกโรคว่าเกิดจากการติดเชื้อชนิดใด
  • การทดสอบสมรรถภาพปอด (Pulmonary Function Test) เป็นการตรวจการทำงานของปอดโดยใช้เครื่องสไปโรมิเตอร์ (Spirometer) เพื่อตรวจสอบว่ามีภาวะปอดอุดกั้นเรื้อรังร่วมด้วยหรือไม่

วิธีรักษาโรคหลอดลมอักเสบ

การรักษาโรคหลอดลมอักเสบขึ้นอยู่กับสาเหตุของโรค กรณีหลอดลมอักเสบเฉียบพลันที่เกิดจากไวรัส อาการมักจะหายได้เองภายใน 1 สัปดาห์ แต่หากมีอาการแทรกซ้อนที่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน แพทย์อาจมีแนวทางบรรเทาอาการให้ดีขึ้น ดังนี้

  • ยาปฏิชีวนะ หากแพทย์วินิจฉัยว่าเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย อาจมีการจ่ายยาปฏิชีวนะเพื่อช่วยกำจัดเชื้อ
  • ยาแก้ไอหรือยาขยายหลอดลม หากมีอาการไอมาก แพทย์อาจแนะนำให้ใช้ยาแก้ไอ หรือในกรณีที่หายใจลำบากอาจต้องใช้ยาขยายหลอดลม
  • พักผ่อนให้เพียงพอ การพักผ่อนจะช่วยให้ร่างกายสามารถฟื้นตัวจากการติดเชื้อและลดอาการอ่อนเพลียได้
  • ดื่มน้ำมากๆ เพราะน้ำช่วยทำให้เสมหะอ่อนตัวและขับเชื้อออกจากร่างกายได้ง่ายขึ้น โดยควรดื่มน้ำอุ่นเพื่อช่วยบรรเทาอาการระคายเคืองในลำคอ
  • หลีกเลี่ยงการอยู่ในที่อุณภูมิต่ำ เช่น ห้องแอร์ หรือที่ที่มีอากาศเย็นมากเกินไป

การป้องกันโรคหลอดลมอักเสบเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรให้ความใส่ใจ โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว ผู้ที่สูบบุหรี่ และผู้ที่ได้รับควันบุหรี่มือสอง การดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้น รวมถึงหมั่นสังเกตอาการของตนเอง และเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำ จะช่วยลดโอกาสในการเกิดโรคนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและนัดหมายแพทย์ได้ที่

ศูนย์สุขภาพปอด ชั้น 7 โรงพยาบาลวิมุต

เวลาทำการ 08.00 - 20.00 น. โทร. 02-079-0315

หรือดาวน์โหลด ViMUT Application เพื่อนัดหมายแพทย์ หรือบริการปรึกษาหมอออนไลน์

ทุกปัญหาสุขภาพ ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางออนไลน์ ที่พร้อมดูแลคุณด้วยความใส่ใจ

ผู้เขียน
นพ.ตุลธร วงศ์เมธานุเคราะห์

แนะนำแพทย์ที่เกี่ยวข้อง

Card Image
นพ.ตุลธร
วงศ์เมธานุเคราะห์
แพทย์ผู้ชำนาญการ
โรคระบบการหายใจและเวชบำบัดวิกฤตระบบการหายใจ

เรื่องสุขภาพน่ารู้ที่เกี่ยวข้อง

Card Image
วัณโรคปอด อันตรายจริงไหม? มีกี่ระยะ รักษาอย่างไร?

วัณโรคปอด อาจไม่ใช่โรคร้ายอย่างที่คิด หากรู้ทันเร็ว แม้จะเป็นโรคที่แพร่กระจายติดต่อกันได้ แต่หากรู้จักสังเกตอาการ และการรักษาก่อนที่โรคจะลุกลามและรุนแรงขึ้น ชวนทุกคนมารู้จักวัณโรคปอดไปพร้อมกับเรา

อ่านเพิ่มเติม
Card Image
EVALI ปอดอักเสบรุนแรงจากบุหรี่ไฟฟ้า

EVALI คือ ปอดอักเสบรุนแรง ที่เกิดจากการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ที่หลายๆคนมักเข้าใจว่าบุหรี่ไฟฟ้ามักจะอันตรายน้อยกว่าบุหรี่มวนแต่แท้จริงแล้วควันไอละอองจากบุหรี่ไฟฟ้ามีฝุ่นขนาดเล็ก 1.0 และ PM2.5

อ่านเพิ่มเติม
Card Image
หายใจไม่ออก อาจไม่ใช่แค่หวัด! รู้จักภาวะน้ำท่วมปอด…ก่อนสายเกินไป

ชวนมารู้จักภาวะน้ำท่วมปอด ภาวะอันตรายที่อาจส่งผลร้ายถึงชีวิต พร้อมเข้าใจถึงสาเหตุว่าเกิดจากอะไร อาการสำคัญ กลุ่มเสี่ยง ตลอดจนแนวทางการรักษาที่ควรรู้

อ่านเพิ่มเติม
Card Image
ปอดเป็นฝ้า จุด ก้อนที่ปอด! บอกโรคอะไร อันตรายไหม ?

อย่าเพิ่งตกใจหากตรวจสุขภาพแล้วภาพเอ็กซเรย์ปอดของคุณเป็นฝ้า มีจุดหรือก้อนที่ปอด ชวนคุณมาทำความเข้าใจปอดเป็นฝ้า-จุด-ก้อน สามารถเป็นโรคอะไรได้บ้าง ?

อ่านเพิ่มเติม