การขลิบหนังหุ้มปลายเป็นหนึ่งในการผ่าตัดที่เก่าแก่ที่สุดในโลก โดยหลักฐานการทำหัตถการนี้ พบย้อนหลังไปได้ประมาณ 15,000 ปีก่อน อย่างไรก็ตาม วิธีการขลิบหนังหุ้มปลายของผู้ชายในปัจจุบันได้มีการพัฒนาเทคนิคที่แตกต่างจากยุคโบราณมาก ทั้งเทคนิควิธีวาดสี หรือวิธีการขลิบแบบไร้เลือด จนเรียกได้ว่าเป็นหัตถการที่ปลอดภัย ความเสี่ยงต่ำ และแทบจะไม่เจ็บปวดเลยก็ว่าได้

ประโยชน์ของการขลิบหนังหุ้มปลาย

1. ความสะอาด

หนังหุ้มปลายอวัยวะเพศที่ยาว หรือ ไม่เปิด อาจจะเป็นสาเหตุให้ปัสสาวะลำบาก หรือ เจ็บปวดเวลามีเพศสัมพันธ์ได้ อีกทั้งการที่ทำความสะอาดได้ยากก็สามารถเป็นสาเหตุของการอักเสบได้ดังนั้น การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศ จะสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้โดยตรงได้ 

2. ลดความเสี่ยงการเกิดมะเร็งองคชาต

งานวิจัยหลายฉบับพบว่า การขลิบหนังหุ้มปลายอวัยวะเพศตั้งแต่วัยเด็กสามารถป้องกันมะเร็งองคชาตได้ชัดเจน และถึงแม้จะเป็นการขลิบในวัยผู้ใหญ่ก็จะสามารถให้ทำความสะอาดและดูแลสำรวจอวัยวะเพศของตนเองได้ง่ายขึ้น ทำให้สามารถมาพบแพทย์ได้รวดเร็วตั้งแต่เริ่มมีรอยโรคใดๆ

3. ลดโอกาสในการติดเชื้อ HIV และ HPV

นอกจากจะลดความเสี่ยงในการติดเชื้อ HIV  ได้แล้ว การขลิบหนังหุ้มปลายยังสามารถลดโอกาสติดเชื้อ HPV ได้ โดยเฉพาะในกลุ่มที่ก่อโรคมะเร็งองคชาตและมะเร็งปากมดลูกได้อีกด้วย 

เทคนิคการขลิบหนังหุ้มปลาย

ปัจจุบันมีวิธีที่นิยมทำกัน 3 รูปแบบหลักๆ โดยมากการขลิบหนังหุ้มปลายสามารถทำด้วยการใช้ยาชาได้ในทุกเทคนิค แต่อย่างไรก็ตาม สำหรับผู้ที่รู้สึกกลัวการทำหัตถการก็สามารถใช้วิธีดมยาสลบได้

1. Dorsal slit and clamp การขลิบหนังหุ้มปลายแบบดั้งเดิม

เป็นวิธีการขลิบแบบดั้งเดิมที่เน้นความรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม การวัดระยะความยาวของหนังหุ้มปลายที่จะตัดเป็นเรื่องที่ทำได้ยาก ต้องอาศัยความละเอียดและระยะเวลา วิธีขลิบแบบนี้จึงสร้างความสวยงามได้น้อยกว่าแบบอื่นๆ 

2. Staple circumcision การขลิบไร้เลือด

การขลิบหนังหุ้มปลายเทคนิคนี้ นิยมเรียกกันว่าการขลิบไร้เลือด เป็นการขลิบด้วยเครื่องมือ Circular Stapler ที่สามารถทำได้โดยใช้เวลาน้อยกว่า แต่มีข้อจำกัดในการปรับแนวการตัดให้เข้ากับรูปทรงของอวัยวะเพศ จึงให้ผลด้านความสวยงามที่ด้อยกว่า Sleeve circumcision 

3. Sleeve circumcision วิธีวาดสี

ใช้วิธีวาดสี เป็นเทคนิคที่ช่วยกำหนดและวัดระยะรูปทรงของอวัยวะเพศที่จะตัดอย่างดี แล้วจึงค่อยลงมีดตัด ซึ่งจะต้องใช้ความเชี่ยวชาญของแพทย์มากกว่าแบบอื่นๆ แพทย์จะสามารถปรับรูปร่างของหนังหุ้มปลายที่จะตัดให้เหมาะสมกับอวัยวะเพศได้อย่างดี จะให้ผลด้านความสวยงามสูงสุด แต่ใช้เวลาผ่าตัดนานขึ้นเล็กน้อย 

ที่โรงพยาบาลวิมุติ เรามีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญระบบทางเดินปัสสาวะหลายท่าน ทางโรงพยาบาลจึงแนะนำการขลิบหนังหุ้มปลายแบบ sleeve circumcision เพื่อประโยชน์ด้านความสวยงามและความปลอดภัยสูงสุดของผู้ป่วย 

วิธีการดูแลตัวเองหลังการขลิบหนังหุ้มปลาย

เพื่อสุขอนามัยที่ดีและลดความเจ็บปวดของแผล หลังการขลิบหนังหุ้มปลายควรดูแลตัวเองและแผลดังนี้

• อย่าให้แผลโดนน้ำในช่วง 2 วันแรกหลังการทำ หากเปียกน้ำให้รีบเช็ดให้แห้งทันที
• 2-3 วันแรกแนะนำให้สวมใส่กางเกงที่โปร่งสบาย
• หากรู้สึกเจ็บ ปวด แสบ หลังยาชาหมดฤทธิ์ ให้ประคบเย็น หรือรับประทานยาแก้ปวดตามที่แพทย์สั่งได้
• สามารถอาบน้ำ ชำระร่างกายได้ตามปกติ (ยกเว้น 2 วันแรก) และทำแผลเองได้ รวมถึงทายาตามที่แพทย์แนะนำ
• งดกิจกรรมทางเพศ การช่วยเหลือตัวเอง กิจกรรมที่ทำให้เกิดการกดทับ หรือกิจกรรมที่ทำให้อวัยวะเพศแข็งตัว 2-3 สัปดาห์
• หากมีอาการผิดปกติ เช่น แผลผ่าตัดมีเลือดไหล หรือน้ำหนองไหลออกมาไม่หยุด มีอาการบวมเพิ่มมากขึ้น ควรเข้าปรึกษาแพทย์ทันที

 

ทั้งหมดนี้ เราจะเห็นได้ว่าการขลิบหนังหุ้มปลายของผู้ชายในปัจจุบันมีความปลอดภัยสูงมากขึ้นและมีประโยชน์มากมาย สำหรับผู้ชายท่านใดที่ต้องการขลิบหนังหุ้มปลายด้วยเทคนิคต่างๆ สามารถปรึกษาแพทย์ก่อนตัดสินใจได้

เรียบเรียงโดย นพ. วิชญะ ปริพัฒนานนท์ ศัลยแพทย์ผู้ชำนาญการโรคระบบทางเดินปัสสาวะ ศูนย์ระบบทางเดินปัสสาวะ 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม 

ศูนย์ระบบทางเดินปัสสาวะ ชั้น 4 โรงพยาบาลวิมุต 

เวลา 08.00-20.00 น. โทร. 0-2079-0040

หรือดาวน์โหลด ViMUT Application เพื่อนัดหมายแพทย์ หรือบริการปรึกษาหมอออนไลน์ได้

 

ทุกปัญหาสุขภาพ ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางออนไลน์ ที่พร้อมดูแลคุณด้วยความใส่ใจ