มะเร็งมดลูกเกิดจากอะไร? ภัยเงียบที่ผู้หญิงควรรู้

02 มี.ค. 68  | ศูนย์สูตินรีเวช
แชร์บทความ      

ภัยเงียบที่ผู้หญิงควรรู้…มะเร็งมดลูกเกิดจากอะไร

มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกหรือมะเร็งมดลูก (Endometrium cancer) เป็นมะเร็งนรีเวชที่พบบ่อยอันดับ 6 ในไทย และพบมากในผู้หญิงอายุมากกว่า 45 ปี หรือสตรีที่เข้าสู่วัยทองไปแล้ว แต่ทั้งนี้ก็อาจพบได้ในผู้หญิงอายุน้อยกว่า 45 ปี โดยเฉพาะในกลุ่มที่มีความเสี่ยง ถึงแม้มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกจะไม่ใช่มะเร็งที่พบได้บ่อยที่สุดแต่ในบางรายการรักษาก็ยุ่งยากและสร้างความไม่สุขสบายให้แก่คนไข้ นอกจากนี้ตัวโรคมะเร็งเบื่อบุโพรงมดลูกยังสามารถ “ลดความเสี่ยงได้” จึงจัดเป็นมะเร็งที่ผู้หญิงควรรู้จักและเข้าใจ เพราะหากพบความผิดปกติหรืออาการบ่งชี้ของโรคได้ตั้งแต่เนิ่นๆ ย่อมมีโอกาสรักษาให้หายได้สูงกว่า

ภัยเงียบที่ผู้หญิงควรรู้…มะเร็งมดลูกเกิดจากอะไร?

โรคมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก (Endometrial Cancer) หรือมะเร็งมดลูก เกิดจากการเจริญเติบโตที่ผิดปกติและรวดเร็วของเซลล์ภายในเยื่อบุโพรงมดลูก จนก่อให้เกิดก้อนเนื้อร้ายได้ โดยสามารถจำแนกประเภทได้ ดังนี้ 

  • ชนิดที่ 1 เป็นชนิดที่พบได้บ่อยและสัมพันธ์กับระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนที่สูงผิดปกติในร่างกายเป็นเวลานาน มะเร็งชนิดนี้มักตรวจพบได้ในระยะต้นๆ มีโอกาสรักษาหายขาดได้มาก อัตราการรอดชีพในกรณีนี้สูงมากกว่า 90%
  • ชนิดที่ 2 เป็นชนิดที่พบได้น้อยกว่า โดยพบได้ประมาณร้อยละ 20 ของผู้ป่วยมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกทั้งหมด ซึ่งมักพบในผู้สูงอายุที่อายุมากกว่า 60 ปี ในระยะที่ลุกลามแล้ว โดยไม่สัมพันธ์กับภาวะฮอร์โมนสูงผิดปกติ การพยากรณ์โรคมีแนวโน้มที่ไม่ดีเท่าชนิดที่ 1

ปัจจัยเสี่ยงการเกิดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก

ปัจจัยเสี่ยงการเกิดมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก

  1. สตรีวัยใกล้เข้าสู่วัยทองหรืออายุมากกว่า 45 ปี มีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกเพิ่มขึ้น และสูงกว่าคนอายุน้อย ทั้งนี้มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกก็สามารถพบได้ในผู้ป่วยอายุน้อยกว่า 45 ปี เช่นกัน โดยเฉพาะในรายที่มีความเสี่ยงข้ออื่นๆ ร่วมด้วย
  2. ร่างกายมีภาวะฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงผิดปกติเป็นเวลานาน ซึ่งมักพบได้ในผู้หญิงที่มีภาวะการตกไข่ผิดปกติที่ไม่ได้รับการรักษาเป็นเวลานาน เช่น สตรีกลุ่มโรค PCOS ที่ไม่ได้รับการรักษา ถึงแม้ว่าในอดีตจะมีข้อมูลว่าการรับประทานยาฮอร์โมนเอสโตรเจนจะทำให้เสี่ยงกับการเป็นโรคนี้เพิ่มขึ้น แต่การแพทย์แผนปัจจุบันทุกวันนี้มีมาตรฐานการจ่ายยาฮอร์โมนที่ปลอดภัยมากแล้ว จึงไม่พบสตรีที่เป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกจากการรับประทานยาฮอร์โมนเอสโตรเจนมากเท่าในอดีตแล้ว
  3. เข้าสู้วัยทองช้ากว่ากำหนด หรือเข้าสู่วัยหมดประจำเดือนช้าว่าปกติ (อายุมากกว่า 55 ปี)
  4. โรคอ้วน การมีไขมันใต้ผิวหนังที่มากสามารถส่งผลทำให้ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนในร่างกายเพิ่มขึ้นได้ แม้ว่ารังไข่จะไม่ผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนแล้วก็ตาม ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก
  5. โรคเบาหวาน เนื่องจากสัมพันธ์กับโรคอ้วน และผู้ป่วยเบาหวานจะมีระดับฮอร์โมนอินซูลินที่ผิดปกติ และส่งผลให้เกิดภาวะการตกไข่ผิดปกติแบบเรื้อรังได้
  6. ประวัติทางพันธุกรรม ในปัจจุบันพบว่ามะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกในบางรายสัมพันธ์กับกรรมพันธุ์ที่ผิดปกติ เช่น LynchII syndrome ผู้ป่วยบางรายอาจจจะมีประวัติบุคคลในครอบครัวสายตรงเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก มะเร็งเต้านม และมะเร็งลำไส้ หลายรายและ/หรือเป็นมะเร็งตั้งแต่อายุยังน้อย

มะเร็งเยื่อบุมดลูกมีอาการอย่างไร ?

มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกในระยะแรกสามารถตรวจพบได้หากผู้ป่วยมีอาการและมาพบแพทย์ได้เร็ว ซึ่งมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกมีอาการสำคัญ ดังนี้

  1. อาการเลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด เช่น เลือดประจำเดือนมาหลายครั้งในเดือนเดียวกัน เลือดประจำเดือนมามากผิดปกติ หรือเลือดออกกะปริดกะปรอยทางช่องคลอด โดยเฉพาะในสตรีที่อายุมากกว่า 45 ปี ควรเข้าพบแพทย์
  2. เลือดออกทางช่องคลอดในสตรีที่เข้าสู่วัยทอง (ไม่มีประจำเดือนครบ 1 ปี)
  3. มีตกขาวเป็นน้ำใสปริมาณมาก ในผู้ป่วยมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกบางรายอาจมาด้วยอาการตกขาวเป็นน้ำใสปริมาณมากในผู้ป่วยสูงอายุ หรือบังเอิญตรวจพบเซลล์เยื่อบุโพรงมดลูกที่ผิดปกติจากการคัดกรองมะเร็งปากมดลูก ซึ่งพบได้แต่ไม่บ่อยเท่าสองข้อแรก


 

มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกตรวจวินิจฉัยได้อย่างไรบ้าง ?

ในกรณีที่แพทย์สงสัยว่าผู้ป่วยอาจะเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก แพทย์จะทำการตรวจร่างกายโดยละเอียด ร่วมกับการตรวจเพิ่มเติมอื่นๆ เช่น

  1. การอัลตราซาวนด์ทางหน้าท้องหรือทางช่องคลอด เพื่อประเมินเบื้องต้นว่ามีก้อนหรือรอยโรคในโพรงมดลูกหรือไม่
  2. การขูดหรือดูดเยื่อบุโพรงมดลูก เพื่อนำชิ้นเนื้อที่ได้มาตรวจหาเนื้อมะเร็ง
  3. การส่องกล้องในโพรงมดลูก ในกรณีที่แพทย์สงสัยภาวะมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกแต่ผลการตรวจเบื้องต้น เช่น การดูดเยื่อบุโพรงมดลูกยังพิสูจน์ไม่ได้ว่ามีเนื้อมะเร็ง

หากได้รับการวินิจฉัยว่ามีมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกแล้ว แพทย์จะทำการตรวจสอบเพิ่มเติมด้วยการเอกเรย์คอมพิวเตอร์ (CT scan) การตรวจเลือด เอกซเรย์ทรวงอก พร้อมกับทดสอบการทำงานของไตและตับ เพื่อวางแผนการรักษาที่เหมาะสมต่อไป

ระยะของมะเร็งปากมดลูก

การจัดระยะขึ้นอยู่กับการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งว่าลุกลามไปมากเพียงใด รวมถึงเป็นมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกชนิดใด ซึ่งแบ่งออกได้ดังนี้

  • ระยะที่ 1 มะเร็งเกิดขึ้นเฉพาะตัวมดลูกเท่านั้น แต่ไม่เกิดขึ้นในส่วนล่าง (ปากมดลูก) ในมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกบางชนิดอาจแพร่กระจายไปที่รังไข่ได้
  • ระยะที่ 2 มะเร็งได้แพร่กระจายเข้าชั้นกล้ามเนื้อของมดลูก
  • ระยะที่ 3 มะเร็งแพร่กระจายไปยังเนื้อเยื่อบริเวณใกล้เคียง เช่น ต่อมน้ำเหลือง หรือช่องคลอด
  • ระยะที่ 4 มะเร็งแพร่กระจายไปยังอวัยวะที่อยู่ห่างไกล เช่น กระเพาะปัสสาวะ หรือลำไส้

มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกรักษาได้อย่างไร ?

มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกรักษาได้อย่างไร ?

โดยทั่วไปการรักษามะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก แพทย์จะทำการผ่าตัดเพื่อนำเนื้อมะเร็งออก โดยการผ่าตัดมดลูก ปากมดลูก รังไข่และท่อนำไข่ออกไปด้วย ร่วมกับการตัดต่อมน้ำเหลืองบริเวณอุ้งเชิงกรานและต่อมน้ำเหลืองที่เส้นเลือดเอออตาร์ นอกจากนี้ การรักษาด้วยการผ่าตัดยังสามารถตรวจสอบการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็งเพิ่มเติมได้ ซึ่งหากไม่พบการลุกลาม การผ่าตัดก็ถือเป็นวิธีการรักษามะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด

อย่างไรก็ตาม ในผู้ป่วยบางรายที่ผลชิ้นเนื้อหลังผ่าตัดพบว่ามีความเสี่ยงสูงที่จะกลับมาเป็นซ้ำหลังผ่าตัด แพทย์จะพิจารณาการรักษาต่อด้วย รังสีรักษา(radiotherapy) หรือยาเคมีบำบัด (Chemotherapy) หรือทั้ง 2 อย่างร่วมกัน เพื่อทำลายเซลล์มะเร็งที่อาจจะหลงเหลืออยู่และลดโอกาสการกลับมาเป็นซ้ำ นอกจากนี้ ในผู้ป่วยบางรายที่ไม่สามารถเข้ารับการผ่าตัดได้ เช่น มีโรคประจำตัวมาก มีความเสี่ยงต่อการผ่าตัดสูง หรือมีการแพร่กระจายไปในปบริเวณที่ผ่าตัดได้ยาก แพทย์สามารถพิจารณาการรักษาด้วยการให้รังสีรักษาที่อุ้งเชิงกรานได้

การมีเลือดออกทางช่องคลอดหลังวัยใกล้หมดประจำเดือนหรือวัยหมดประจำเดือนไปแล้วไม่ใช่เรื่องปกติ แม้จะมีปริมาณเพียงเล็กน้อยก็ควรพบแพทย์เพื่อตรวจหาสาเหตุในทันที เพื่อแยกภาวะมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก และภาวะผิดปกติอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นภายในร่างกาย เพราะหากได้รับการวินิจฉัยที่เด่นชัดตั้งแต่ระยะเริ่มแรก ก็สามารถนำไปสู่การรักษาได้อย่างทันท่วงทีและมีโอกาสหายได้มากกว่าอย่างแน่นอน


สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและนัดหมายแพทย์ได้ที่
ศูนย์สูตินรีเวช ชั้น 3 โรงพยาบาลวิมุต
เวลาทำการ 8:00 - 20:00 น. โทร. 0-2079-0066
หรือดาวน์โหลด ViMUT Application เพื่อนัดหมายแพทย์ หรือบริการปรึกษาหมอออนไลน์

ทุกปัญหาสุขภาพ ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางออนไลน์ ที่พร้อมดูแลคุณด้วยความใส่ใจ

ผู้เขียน
นพ.กษิติ เที่ยงธรรม สูตินรีแพทย์ แพทย์ผู้ชำนาญการด้านมะเร็งวิทยานรีเวช

เรื่องสุขภาพน่ารู้ที่เกี่ยวข้อง

Card Image
คุณแม่มือใหม่ ต้องเตรียมตัวอย่างไรหลังคลอด ?

ใกล้เวลาได้พบเจอกัน แต่คุณแม่มือใหม่จำนวนไม่น้อยที่ไม่รู้ว่าต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง กับสิ่งที่ต้องเจอหลังคลอดลูก ที่นี่เราได้รวมข้อมูลเพื่อคุณแม่มือใหม่มาให้แล้ว

อ่านเพิ่มเติม
Card Image
ไขข้อข้องใจ ทำไมผู้หญิงถึงควรฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก ?

วัคซีนมะเร็งปากมดลูก ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งมดลูกได้จริงไหม จำเป็นแค่ไหน ทำไมต้องฉีด

อ่านเพิ่มเติม
Card Image
4 มะเร็งร้ายที่ผู้หญิงต้องระวัง พร้อมโปรแกรมตรวจสุขภาพผู้หญิง

เช็กให้ชัวร์เพื่อสุขภาพของผู้หญิงทุกคน กับ 4 มะเร็งร้ายทำลายชีวิต ที่สาวๆ ต้องหมั่นสังเกต พร้อมโปรแกรมตรวจสุขภาพผู้หญิงปี 2567 ราคาพิเศษจาก รพ. วิมุต

อ่านเพิ่มเติม
Card Image
ก้าวสู่ชีวิตคู่อย่างมั่นใจ “ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน”

เริ่มต้นชีวิตคู่ที่สมบูรณ์แบบพร้อมสุขภาพดีไปด้วยกัน กับการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน หลายคนอาจสงสัยว่าจำเป็นหรือไม่และต้องตรวจอะไรบ้าง เรามีคำตอบมาให้แล้วที่นี่

อ่านเพิ่มเติม