วัคซีนมะเร็งปากมดลูก (HPV) 9 สายพันธุ์ ฉีดเมื่อไร ทำไมต้องฉีด?

12 ก.ค. 65  | ศูนย์สูตินรีเวช
แชร์บทความ      

ไขข้อข้องใจ ทำไมผู้หญิงถึงควรฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก ?

มะเร็งปากมดลูก เป็นมะเร็งที่ถูกพบมากเป็นอันดับที่ 3 ของผู้หญิงไทย และเป็นอันดับ 4 ของผู้หญิงทั่วโลก จากสถิติเมื่อปีค.ศ. 2020 พบผู้หญิงทั่วโลกกว่า 341,831 คน เสียชีวิตด้วยโรคมะเร็งปากมดลูก หรือในทุก 2 นาที จะมีผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกเสียชีวิต 1 คน แม้จะเป็นจำนวนที่ดูน่ากลัวและเป็นภัยเงียบที่ไม่มีสัญญาณเตือนล่วงหน้า แต่สามารถสร้างภูมิคุ้มกันลดโอกาสเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็งปากมดลูกได้เพียงเข้ารับการฉีดวัคซีน HPV ชนิด  9 สายพันธุ์ ซึ่งเป็นทางเลือกที่สำคัญและได้ผลจริง
 

ไขข้อข้องใจ เพราะอะไรทำไมผู้หญิงถึงควรฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก ? 

เพราะเหตุใดผู้หญิงควรฉีดวัคซีนมะเร็งปากมดลูก และวัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ มีความสำคัญอย่างไร มาไขข้อข้องใจไปพร้อมกัน

1. ไวรัส HPV คืออะไร ? 

HPV หรือ Human Papillomavirus คือ DNA ของเชื้อไวรัส ต้นเหตุสำคัญของการก่อโรคมะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด มะเร็งอวัยวะเพศในเพศหญิง โรคหูดหงอนไก่ มะเร็งอวัยวะเพศ มะเร็งทวารหนัก และมะเร็งในช่องปากและลำคอในเพศชาย ซึ่งการสัมผัสกับผู้ที่มีเชื้อ HPV โดยตรงแม้เพียงครั้งเดียวก็อาจทำให้ติดเชื้อ HPV ได้ เนื่องจากเชื้อไวรัสชนิดนี้แฝงอยู่ในร่างกายได้โดยไม่แสดงอาการนานนับ 10 ปี ผู้มีเชื้อจึงอาจแพร่ไปยังผู้อื่นได้โดยไม่รู้ตัวผ่านการมีเพศสัมพันธ์ 

เชื้อไวรัส HPV มีมากกว่า 140 สายพันธุ์ โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม คือ กลุ่มที่มีความเสี่ยงสูงที่สามารถทำให้เนื้อเยื่อบุผิวเซลล์ปากมดลูกอักเสบเรื้อรังจนกระทั่งเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์มะเร็ง ได้แก่สายพันธุ์ 16, 18, 31, 33, 39, 45, 51, 52, 56, 58, 59, 68, 35 และ 66 ส่วนที่เหลือเป็นกลุ่มที่มีความเสี่ยงต่ำ ที่สามารถทำให้เป็นโรคหูดหงอนไก่บริเวณอวัยวะเพศ ได้แก่สายพันธุ์ 6 และ 11 ซึ่งสามารถติดต่อทางเพศสัมพันธ์เช่นกัน

2. วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกมีกี่แบบ

ปัจจุบันวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูกมีให้เลือกในการป้องกันอยู่ 3 แบบ ซึ่งจะแตกต่างกันที่ความครอบคลุมสายพันธุ์ของเชื้อที่ป้องกันได้ ดังนี้


คุณสมบัติ

วัคซีน 2 สายพันธุ์ (Cervarix)

วัคซีน 4 สายพันธุ์ (Gardasil)

วัคซีน 9 สายพันธุ์ 

(Gardasil 9)


ป้องกันสายพันธุ์

สายพันธุ์ 16, 18

สายพันธุ์ 6, 11, 16, 18

สายพันธุ์ 6, 11, 16, 18, 31, 33, 45, 52, 58

ป้องกันมะเร็งปากมดลูก

~70%

~70%

~90%

ป้องกันหูดหงอนไก่

ไม่ป้องกัน

ป้องกันได้

ป้องกันได้

ป้องกันมะเร็งอื่นๆ

มะเร็งช่องคลอด, ทวารหนัก

มะเร็งช่องคลอด, ทวารหนัก

ครอบคลุมชนิดมะเร็งได้กว้างที่สุด

จุดเด่น

เน้นป้องกันสายพันธุ์ก่อมะเร็งหลัก

ป้องกันทั้งมะเร็งและหูดหงอนไก่

ป้องกันได้ครอบคลุมที่สุดในปัจจุบัน
 

3 ทำไมต้องฉีดวัคซีน HPV 9 สายพันธุ์ ?  

เมื่อพูดถึงวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก หรือ HPV เรามักจะคุ้นกับวัคซีนชนิด 2 สายพันธุ์ หรือ 4 สายพันธุ์ แต่ในปัจจุบันการแพทย์มีการพัฒนาวัคซีน HPV 9 สายพันธุ์ ซึ่งมีประสิทธิภาพป้องกันโรคที่เกิดจากเชื้อ HPV ได้ครอบคลุมมากกว่าเดิม ประกอบด้วยสายพันธุ์ 6, 11, 16, 18, 31, 33, 45, 52 และ 58 ที่ช่วยป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก มะเร็งปากช่องคลอดและช่องคลอด หูดที่อวัยวะเพศ รวมถึงมะเร็งทวารหนักได้ ดังนั้นจำนวนสายพันธุ์ที่เพิ่มขึ้นในวัคซีนจึงหมายถึงการป้องกันมะเร็งได้มากขึ้น

 

4.วัคซีนมะเร็งปากมดลูก HPV ใครบ้างที่ควรฉีด ควรฉีดเมื่อไหร่ หรือฉีดอายุเท่าไหร่ ?

วัคซีน HPV ชนิด 9 สายพันธุ์ เหมาะกับทุกช่วงวัย โดยมีประสิทธิภาพในการป้องกันที่แนะนำ ดังนี้

  • อายุ 9-45 ปี การเริ่มรับวัคซีนตั้งแต่ยังไม่มีเพศสัมพันธ์ หรือยังไม่พบเชื้อ HPV ในร่างกาย จะทำให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด ดังนั้น การฉีดวัคซีนในเด็กและหญิงสาววัยรุ่น อายุ 9-26 ปี เพื่อป้องกันล่วงหน้าก่อนการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรก จึงทำให้เกิดภูมิคุ้มกันที่สูงและได้ประโยชน์มากกว่า 
  • ในรายที่มีอายุเกินกว่า 26 ปี หรือเคยมีเพศสัมพันธ์แล้ว ยังคงแนะนำให้ฉีดวัคซีน HPV เช่นกัน เพราะวัคซีนสามารถป้องกันมะเร็งได้ทุกช่วงวัยและมีความปลอดภัยสูง เมื่อฉีดครบโดสแล้วภูมิคุ้มกันจะอยู่ในร่างกายไปตลอดชีวิตโดยไม่ต้องฉีดกระตุ้น 
  • ในผู้ชาย แม้ชื่อวัคซีนจะดูเป็นเรื่องราวของผู้หญิง แต่ผู้ชายยังสามารถรับวัคซีน HPV ได้เพื่อเป็นการป้องกันการติดเชื้อและถ่ายทอดไปยังคนที่คุณรักอีกด้วย

ดังนั้น แม้จะได้รับวัคซีนช้า ประสิทธิภาพไม่ได้สูงเท่ากับตอนอายุน้อยๆ แต่การป้องกันไว้ก่อนก็ยังดีกว่าไม่ได้รับวัคซีนอย่างแน่นอน 

5. วัคซีนมะเร็งปากมดลูกฉีดอย่างไร มีผลข้างเคียงหรือไม่? 

วัคซีน HPV จะถูกฉีดเข้ากล้ามเนื้อบริเวณต้นแขน ทั้งหมด 2 หรือ 3 เข็ม โดยแบ่งตามช่วงอายุ ซึ่งการได้รับการฉีดวัคซีนครบทุกเข็มตามที่แพทย์นัดหมาย ร่างกายจึงจะสามารถสร้างภูมิคุ้มกันได้สมบูรณ์และสามารถป้องกันได้ตลอดชีวิตโดยไม่จำเป็นต้องได้รับวัคซีนเข็มกระตุ้นอีก โดยแบ่งตามเกณฑ์อายุของผู้เข้ารับวัคซีน ดังนี้

  • หากเข้ารับวัคซีนเข็มแรกก่อนอายุ 15 ปี จะได้รับการฉีดวัคซีน 2 เข็ม โดยฉีดครั้งแรกได้ทันที และฉีดครั้งที่ 2 หลังเข็มแรก 6 เดือน
  • หากผู้เข้ารับวัคซีนเข็มแรกอายุมากกว่า 15 ปี จะได้รับรับการฉีดวัคซีน 3 เข็ม โดยฉีดครั้งที่ 1 ได้ทันที ครั้งที่ 2 เว้นระยะห่างจากเข็มแรก 1-2 เดือน และฉีดครั้งที่ 3 ห่างจากเข็มแรกเป็นเวลา 6 เดือน

อาการข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน HPV 9 สายพันธุ์ มักเป็นอาการเล็กๆ น้อยๆ ที่ไม่เป็นอันตราย เช่น การปวดบวมแดงเล็กน้อยบริเวณต้นแขนที่รับการฉีดวัคซีน ปวดหัว มีไข้ อ่อนเพลีย ซึ่งเกิดขึ้นชั่วคราว 1-2 วัน หลังได้รับวัคซีนและสามารถหายไปเองได้

6. เคยมีเพศสัมพันธ์แล้วยังฉีดวัคซีน HPV ได้ไหม?

ได้ และยังคงแนะนำให้ฉีดอย่างยิ่ง แม้ว่าคุณอาจจะเคยได้รับเชื้อ HPV บางสายพันธุ์มาแล้วจากการมีเพศสัมพันธ์ แต่เป็นไปได้น้อยมากที่คุณจะเคยได้รับเชื้อครบทุกสายพันธุ์ที่อยู่ในวัคซีน ดังนั้น การฉีดวัคซีนจะยังคงช่วยสร้างภูมิคุ้มกันป้องกันเชื้อสายพันธุ์อื่นๆ ที่คุณยังไม่เคยได้รับ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคร้ายในอนาคตได้

ฉีดวัคซีนแล้ว ไม่ต้องตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกอีกใช่ไหม?

ไม่จริง! นี่คือความเข้าใจผิดที่อันตรายมาก การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำยังคงจำเป็นอย่างยิ่งตามคำแนะนำของแพทย์ (โดยทั่วไปคือทุก 3-5 ปี) ด้วยเหตุผลสำคัญคือ

  • วัคซีน 9 สายพันธุ์ สามารถป้องกันเชื้อ HPV ที่เป็นสาเหตุของมะเร็งปากมดลูกได้ประมาณ 90% แต่ไม่สามารถป้องกันได้ 100%
  • ยังมีเชื้อ HPV สายพันธุ์อื่นๆ อีกเล็กน้อยที่ไม่ได้อยู่ในวัคซีนซึ่งอาจก่อให้เกิดมะเร็งได้
  • การตรวจคัดกรองจะช่วยให้เราสามารถตรวจพบความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูกได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นและทำการรักษาได้ทันท่วงที

8. ผู้ชายจำเป็นต้องฉีดด้วยหรือไม่ ?

หากสามารถเข้ารับวัคซีนได้ก็มีประโยชน์อย่างมาก การฉีดวัคซีน HPV ในผู้ชายให้ประโยชน์ 2 ต่อ คือ

  • ป้องกันตนเอง: ช่วยป้องกันการเกิดโรคหูดหงอนไก่ และลดความเสี่ยงของมะเร็งที่พบได้ในผู้ชาย เช่น มะเร็งทวารหนัก มะเร็งองคชาต และมะเร็งในช่องปากและลำคอ
  • ป้องกันคู่นอน ช่วยลดการเป็น ‘พาหะ’ ส่งต่อเชื้อ HPV ไปยังคู่นอน ซึ่งเป็นการช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกให้กับคนรักของคุณได้โดยตรง

9. เข้ารับการฉีดวัคซีน HPV 9 สายพันธุ์ ที่โรงพยาบาลวิมุตได้อย่างไร ? 

ที่โรงพยาบาลวิมุตเราพร้อมดูแลสุขภาพร่างกายแบบครบวงจร ด้วยโปรแกรมวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก HPV 9 สายพันธุ์ ในราคาโปรโมชันพิเศษ ที่ครอบคลุมทั้งค่าวัคซีนและค่าบริการทางการแพทย์ไว้อย่างครบครัน กดซื้อแพ็กเกจด้วยตนเอง หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้แล้ววันนี้ที่นี่ โปรแกรมวัคซีน HPV 9 สายพันธุ์ หรือ โทร. 0-2079-0000

การฉีดวัคซีน HPV 9 สายพันธุ์ ให้ครบตั้งแต่อายุยังน้อยจะช่วยเพิ่มอัตราภูมิคุ้มกันได้สูง เลี่ยงให้ห่างไกลจากโรคมะเร็งปากมดลูก มะเร็งช่องคลอด มะเร็งทวารหนัก มะเร็งช่องปากและลำคอได้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถเสริมความปลอดภัยเพิ่มอีกระดับด้วยการเช็กสุขภาพ ตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำ เพื่อยืนยันความมั่นใจ ห่างไกลต่อการเกิดโรคมะเร็งปากมดลูกได้มากขึ้นนั่นเอง

 

ติดต่อเราเพื่อปรึกษาปัญหาสุขภาพเกี่ยวผู้หญิงได้ที่
ศูนย์สูตินรีเวช ชั้น 3 โรงพยาบาลวิมุต
โทร 0-2079-0066 เวลาทำการ 08.00-20.00 น.
หรือดาวน์โหลด ViMUT Application เพื่อนัดหมายแพทย์ หรือบริการปรึกษาหมอออนไลน์ได้

 

ทุกปัญหาสุขภาพ ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางออนไลน์ ที่พร้อมดูแลคุณด้วยความใส่ใจ


เรื่องสุขภาพน่ารู้ที่เกี่ยวข้อง

Card Image
คุณแม่มือใหม่ ต้องเตรียมตัวอย่างไรหลังคลอด ?

ใกล้เวลาได้พบเจอกัน แต่คุณแม่มือใหม่จำนวนไม่น้อยที่ไม่รู้ว่าต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง กับสิ่งที่ต้องเจอหลังคลอดลูก ที่นี่เราได้รวมข้อมูลเพื่อคุณแม่มือใหม่มาให้แล้ว

อ่านเพิ่มเติม
Card Image
4 มะเร็งร้ายที่ผู้หญิงต้องระวัง พร้อมโปรแกรมตรวจสุขภาพผู้หญิง

เช็กให้ชัวร์เพื่อสุขภาพของผู้หญิงทุกคน กับ 4 มะเร็งร้ายทำลายชีวิต ที่สาวๆ ต้องหมั่นสังเกต พร้อมโปรแกรมตรวจสุขภาพผู้หญิงปี 2567 ราคาพิเศษจาก รพ. วิมุต

อ่านเพิ่มเติม
Card Image
ก้าวสู่ชีวิตคู่อย่างมั่นใจ “ตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน”

เริ่มต้นชีวิตคู่ที่สมบูรณ์แบบพร้อมสุขภาพดีไปด้วยกัน กับการตรวจสุขภาพก่อนแต่งงาน หลายคนอาจสงสัยว่าจำเป็นหรือไม่และต้องตรวจอะไรบ้าง เรามีคำตอบมาให้แล้วที่นี่

อ่านเพิ่มเติม
Card Image
5 วิธีแก้อาการปวดท้องประจำเดือน… ปวดท้องเมนส์มีทางแก้

ปวดท้องเมนส์ทำไงดี ปวดประจำเดือนจนนอนไม่ได้ ต้องแก้อย่างไรถึงจะหาย มาดู 5 วิธีแก้อาการปวดท้องประจำเดือนได้ที่นี่ ที่จะช่วยให้นอนหลับสบายมากขึ้น ไม่รบกวนชีวิตประจำวัน

อ่านเพิ่มเติม