บำบัดด้วยออกซิเจน HBOT เทคโนโลยีการรักษาที่จะทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น
บำบัดด้วยออกซิเจน HBOT เทคโนโลยีการรักษาที่จะทำให้ชีวิตคุณง่ายขึ้น
เทคโนโลยีในปัจจุบันถูกพัฒนาไปอย่างก้าวกระโดด รวมถึงเทคโนโลยีทางการแพทย์ด้วย หนึ่งในนั้นคือการบําบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง Hyperbaric Oxygen Therapy (HBOT) เป็นเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัย ซึ่งถูกพัฒนาให้เอื้อต่อการรักษาโรคต่างๆ ให้ได้ประสิทธิภาพและเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยบรรเทาอาการป่วยจากหนักให้กลายเป็นเบาได้ เพราะออกซิเจนเป็นก๊าซที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของทั้งพืช สัตว์ รวมถึงมนุษย์เราด้วย โดยช่วยส่งเสริมและเป็นประโยชน์ต่อระบบต่างๆ ในร่างกายหลายส่วน แต่ด้วยวิธีการบำบัดออกซิเจนนี้ยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายมากนัก วันนี้เราจึงอยากพาคุณมาทำความรู้จักการบำบัดด้วยออกซิเจนให้มากขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกในการรักษาสุขภาพได้ในอนาคต
การบําบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง Hyperbaric Oxygen Therapy (HBOT) คืออะไร ?
เป็นการนำออกซิเจนความดันสูงมาบำบัดโรค เป็นการหายใจด้วยออกซิเจนบริสุทธิ์ 100% เข้าสู่ร่างกาย โดยผ่านทางระบบทางเดินหายใจ ภายใต้ความดันบรรยากาศที่มากกว่า 1 ATA จึงทำให้ออกซิเจนละลายเข้าสู่เลือดได้ในปริมาณมาก ช่วยส่งเสริมการรักษาโรคต่างๆ ให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น
หลักการรักษาผู้ป่วยด้วยเครื่องบำบัดออกซิเจน Hyperbaric Oxygen Therapy (HBOT)
หลักการทำงานของเครื่องบำบัดออกซิเจนเป็นการรักษาโดยให้ผู้ป่วยเข้าไปนอนในตู้กระจกทรงกระบอกแคปซูล ซึ่งภายในมีออกซิเจน 100% ภายใต้ความดันบรรยากาศ 2-3 เท่าของความดันบรรยากาศปกติ เพื่อให้ออกซิเจนมีขนาดเล็กลง และสามารถเข้าสู่ร่างกายให้ได้มากที่สุด โดยขณะที่ผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดระดับเม็ดเลือดแดงจะเพิ่มจำนวนขึ้น และออกซิเจนจะทำการจับกับเม็ดเลือดแดง ทำให้ร่างกายได้รับออกซิเจนในปริมาณสูงมากกว่าการหายใจในบรรยากาศปกติ ซึ่งการบำบัดด้วยออกซิเจนนี้จะทำให้หลอดเลือดและเนื้อเยื่อได้รับออกซิเจนเพิ่มมากขึ้นหลายเท่า ส่งผลดีต่อการทำงานของเซลล์ในระบบต่างๆ ของร่างกายทั้งหมด
ประโยชน์ของการบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง Hyperbaric Oxygen Therapy (HBOT)
ประโยชน์ที่ได้รับจากการบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง เกิดจากกลไลดังต่อไปนี้
- กลไลแรกเกิดจากการเพิ่มความดันบรรยากาศ จะช่วยลดขนาดของฟองอากาศที่อุดตันตามหลอดเลือด หรือเนื้อเยื่ออันเกิดจากการดำน้ำที่ลดความกดอากาศไม่เหมาะสม
- กลไกที่ 2 เกิดจากการที่มีออกซิเจนละลายอยู่ในเลือดหรือเนื้อเยื่อเป็นจำนวนมาก จะช่วยลดอาการที่มาจากภาวะขาดออกซิเจนและช่วยฟื้นฟูร่างกายได้ลึกถึงระดับเซลล์ ช่วยกระตุ้นการเจริญของเนื้อเยื่อและสร้างเส้นเลือดฝอยขึ้นมาใหม่ให้เพียงพอต่อการทำงานของร่างกาย เพิ่มเซลล์เม็ดเลือดขาวในการทำลายเชื้อโรค อีกทั้งช่วยในเรื่องของผิวพรรณในการฟื้นฟูแผลจากการผ่าตัด หรือหลังศัลยกรรม รวมถึงซ่อมแซมเนื้อเยื่อต่างๆ ที่ได้รับการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬาหรือออกกำลังกาย
ผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการรักษา
- ผู้ป่วยที่ปรับสมดุลในหูลำบาก อาจได้รับบาดเจ็บของเยื่อเเก้วหูจากแรงดันได้
- ผู้ป่วยอาจพบทำให้ระดับสายตาสั้นเพิ่มขึ้น คลื่นไส้ เวียนศีรษะ แต่จะเป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้นและจะหายได้เอง
- ผู้ป่วยโรคปอดหรือบาดเจ็บที่ปอด อาจเกิดอันตรายขึ้นจากการขยายตัวของอากาศในช่องเยื่อหุ้มปอดได้
หมายเหตุ : ก่อนเข้ารับการรักษาด้วยออกซิเจนแรงดันสูง ผู้ป่วยจะได้รับการประเมินและตรวจรักษาโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทุกครั้ง
วิธีเตรียมตัวก่อนเข้ารับการบำบัดออกซิเจน Hyperbaric Oxygen Therapy (HBOT)
ก่อนเข้ารับการบำบัดออกซิเจนควรคำนึงถึงข้อควรระวังในการรักษา และปฎิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพราะเครื่องบำบัดออกซิเจนเป็นเครื่องมือแพทย์เฉพาะทาง อาจเกิดอันตรายต่อผู้ป่วยได้หากเพิกเฉยต่อคำแนะนำ ดังนี้
- คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นหลัก หลีกเลี่ยงสารก่อเชื้อเพลิง เช่น น้ำหอม เจลตกแต่งทรงผม หรือเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์
- ทำความเข้าใจเกี่ยวกับผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้ และเข้ารับการปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญอย่างละเอียด ทั้งในเรื่องของโรคประจำตัวหรืออาการแพ้ต่างๆ
- ไม่ควรอดนอนหรือออกกำลังกายมากเกินไป
- หากมีอาการไข้ เป็นหวัด หรืออาการภูมิแพ้ ให้แจ้งแพทย์ก่อนเข้ารับการรักษา
- หากผู้ป่วยใช้ฟันปลอม ให้ถอดออกก่อนเข้ารับการรักษา
- งดการแต่งหน้าหรือทาโลชั่นทุกชนิด
- งดสูบบุหรี่ก่อนเข้ารับการบำบัดออกซิเจนอย่างน้อย 4 ชั่วโมง
ขั้นตอนการรักษาผู้ป่วยด้วยเครื่องบำบัดออกซิเจน Hyperbaric Oxygen Therapy (HBOT)
เมื่อทำความรู้จักและเข้าใจกับวิธีการบำบัดด้วยออกซิเจนเป็นอย่างดีและเข้ารับคำปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญแล้ว ขั้นตอนต่อไปเป็นการเตรียมตัวเข้ารับการบำบัดออกซิเจนโดยมีขั้นตอน ดังนี้
- ซักประวัติตรวจร่างกาย โดยแพทย์เวชศาสตร์ความดันบรรยากาศสูง ทุกครั้งก่อนเข้ารับการบำบัดออกซิเจน
- เปลี่ยนเครื่องแต่งกายตามที่โรงพยาบาลจัดไว้ให้
- แจ้งแพทย์ผู้ทำการรักษาก่อนหากมีโรคประจำตัว หรือเกิดความผิดปกติขณะอยู่ในเครื่องบำบัดออกซิเจน
- ผู้ป่วยนอนลงบนเตียงแล้วค่อยๆ เลื่อนเข้าไปในเครื่องบำบัดออกซิเจน
- เจ้าหน้าที่จะให้ออกซิเจน 100% เข้าสู่ตัวเครื่องและปรับความดันออกซิเจนจนถึงระดับของการรักษา
- เจ้าหน้าที่จะคอยสังเกตอาการและปฏิกิริยาของผู้ป่วยอยู่ตลอดขณะทำการรักษา และผู้ป่วยกับเจ้าหน้าที่สามารถติดต่อกันผ่านอุปกรณ์ภายในตัวเครื่องได้ตลอดเวลา
- ใช้เวลาในการรักษาครั้งละ 60- 90 นาที
- เมื่อหมดเวลาการรักษเจ้าหน้าที่จะค่อยๆ ลดความดันบรรยากาศภายในเครื่องบำบัดลงจนเท่ากับปกติ แล้วนำผู้ป่วยออกมา เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการรักษา
การบำบัดด้วยออกซิเจน Hyperbaric Oxygen Therapy (HBOT) เหมาะกับใคร ?
การบำบัดด้วยออกซิเจนสามารถแก้ปัญหาสุขภาพร่างกายได้หลากหลาย แต่โรคบ่งชี้หลักที่มีการศึกษาและงานวิจัยรองรับ ว่าสามารถช่วยส่งเสริมให้การรักษาได้ผลดียิ่งขึ้น มีดังนี้
- โรคจากการลดความกดอากาศ (Decompression sickness) ที่เกิดจากการดำน้ำ
- ภาวะฟองก๊าซอุดตันหลอดเลือดแดง (Arterial or gas embolism)
- พิษจากก๊าซคาร์บอนมอนน๊อกไซด์ (Carbon monoxide poisoning)
- การติดเชื้อรุนแรง Gas gangrene ของเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อจากเชื้อคลอสตริเดียม (Clostridial myositis and myonecrosis)
- การบาดเจ็บของเนื้อเยื่อที่โดนบดขยี้ (Crush injury, Compartment syndrome and Other acute traumatic ischemias)
- การขาดการไหลเวียนของเลือดแดง (Arterial insufficiency) เช่น
- แผลหายยาก (Enhancement of healing in selected problem wounds)
- เส้นเลือดลูกตาตีบตัน (Central retinal artery occlusion)
- การสูญเสียเลือด หรือภาวะเลือดจาง (Exceptional blood loss anemia)
- ฝีในสมอง (Intracranial abscess)
- การติดเชื้ออย่างรุนแรงของเนื้อเยื่ออ่อน (Necrotizing soft tissue infection)
- การติดเชื้อของกระดูกที่ไม่ตอบสนองต่อการรักษาพื้นฐาน (Refractory osteomyelitis)
- เนื้อเยื่ออ่อนตายจากการฉายรังสี (Delayed radiation injury)
- การปลูกถ่ายผิวหนังและเนื้อเยื่อที่เสี่ยงต่อการล้มเหลว (Compromised grafts and flaps)
- แผลไหม้ (Acute thermal burn injury)
- การสูญเสียการได้ยิน (Idiopathic sudden sensorineural hearing loss)
นอกจากนี้ ออกซิเจนที่ละลายอยู่ในเลือด หรือเนื้อเยื่อที่เพิ่มมากขึ้น ยังสามารถฟื้นฟูเซลล์และเนื้อเยื่อต่างๆ ที่เลือดไปเลี้ยงไม่เพียงพอ ซึ่งอาจเกิดจากการใช้งานหรือการบาดเจ็บจากกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน จึงเป็นประโยชน์เพิ่มเติมในกลุ่มผู้ป่วยที่มีปัญหาการบาดเจ็บจากการเล่นกีฬา และความอ่อนล้าจากการทำงานหนัก พักผ่อนไม่เพียงพอ
อีกทั้งยังช่วยสนับสนุนกลไกการชะลอวัยร่วมกับศาสตร์ด้านอื่นๆ เพื่อฟื้นฟูผู้ป่วยหลังจากการผ่าตัด หรือหลังการเจ็บป่วยในบางประเภท แต่เนื่องจากผู้ป่วยกลุ่มนี้ไม่อยู่ในข้อบ่งชี้หลัก จึงจำเป็นต้องได้รับการประเมินและทำความเข้าใจถึงข้อดี ข้อเสียที่ชัดเจนจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญก่อนเข้ารับการรักษา
เรียกได้ว่าวิธีการบำบัดด้วยออกซิเจนความดันสูง Hyperbaric Oxygen Therapy (HBOT) เป็นอีกหนึ่งทางเลือกของการรักษาโรคที่น่าสนใจเป็นอย่างมาก เพราะมีวิธีการรักษาที่ไม่ยุ่งยากซับซ้อนและยังได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ แต่อย่างไรก็ตามการรักษาผู้ป่วยด้วยการบำบัดออกซิเจนเป็นเครื่องมือสำหรับทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านเวชศาสตร์ความดันบรรยากาศสูง จำเป็นต้องมีการใช้งานภายใต้การดูแลของแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หากท่านใดสนใจแพ็กเกจการบำบัดด้วยออกซิเจนความกดบรรยากาศสูง สามารถรับบริการให้คำปรึกษา หรือการวินิจฉัยจากแพทย์ได้ในเวลาทำการของโรงพยาบาล
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและนัดหมายแพทย์ได้ที่
ศูนย์เบาหวาน ไทรอยด์ ต่อมไร้ท่อ และควบคุมน้ำหนัก ชั้น 3 โรงพยาบาลวิมุต
เวลาทำการ 07.00 - 19.00 น. โทร.0-2079-0070
หรือดาวน์โหลด ViMUT Application เพื่อนัดหมายแพทย์
แนะนำแพทย์ที่เกี่ยวข้อง
เรื่องสุขภาพน่ารู้ที่เกี่ยวข้อง

สายกินต้องระวัง โรคอันตรายจากไขมันที่ต้องรู้ !
สายกินต้องระวัง! อาหารไขมันสูง ของทอดแสนอร่อยที่แฝงไปด้วยโรคไขมันตัวร้าย มาดูความลับทั้งประโยชน์และโทษของไขมัน ที่บั่นทอนสุขภาพคุณจนอาจเป็นโรคร้ายแรงได้มากกว่าที่คิด

3 สัญญาณที่บอกว่า คุณกำลังลดน้ำหนักผิดวิธี
เชื่อว่าหลายคนยังมีเป้าหมายในการลดน้ำหนัก แต่ปัญหาที่มักพบ คือ ลดน้ำหนักไม่สำเร็จสักที หรืออาจลดได้แค่ช่วงสั้นๆ แล้วกลับมาน้ำหนักเท่าเดิม ซึ่งสาเหตุอาจมาจากการลดน้ำหนักอย่างผิดวิธี

13 วิธีดูแลตนเองของผู้ป่วยเบาหวานในยุค COVID-19
เนื่องจากผู้ป่วยเบาหวานเป็นกลุ่มบุคคลที่ถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อ covid-19 โดยโรคเบาหวานนั้นจะทำให้ติดเชื้อ covid -19 ได้ง่ายกว่าบุคคลทั่วไป และหากติดเชื้อแล้วจะมีผลทำให้เกิดพาวะแทรกซ้อนมากกว่าบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้เป็นเบาหวาน

เป็นเบาหวานตั้งครรภ์ได้ไหม ?
เพราะการสร้างครอบครัวคือหนึ่งในความฝันของผู้หญิงหลายๆ คน แต่สำหรับคนที่เป็นเบาหวานคงกังวลไม่น้อยว่าจะมีลูกได้ไหม ปลอดภัยหรือเปล่า เรามาฟังคำตอบกันที่นี่

สายกินต้องระวัง โรคอันตรายจากไขมันที่ต้องรู้ !
สายกินต้องระวัง! อาหารไขมันสูง ของทอดแสนอร่อยที่แฝงไปด้วยโรคไขมันตัวร้าย มาดูความลับทั้งประโยชน์และโทษของไขมัน ที่บั่นทอนสุขภาพคุณจนอาจเป็นโรคร้ายแรงได้มากกว่าที่คิด

3 สัญญาณที่บอกว่า คุณกำลังลดน้ำหนักผิดวิธี
เชื่อว่าหลายคนยังมีเป้าหมายในการลดน้ำหนัก แต่ปัญหาที่มักพบ คือ ลดน้ำหนักไม่สำเร็จสักที หรืออาจลดได้แค่ช่วงสั้นๆ แล้วกลับมาน้ำหนักเท่าเดิม ซึ่งสาเหตุอาจมาจากการลดน้ำหนักอย่างผิดวิธี

13 วิธีดูแลตนเองของผู้ป่วยเบาหวานในยุค COVID-19
เนื่องจากผู้ป่วยเบาหวานเป็นกลุ่มบุคคลที่ถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อ covid-19 โดยโรคเบาหวานนั้นจะทำให้ติดเชื้อ covid -19 ได้ง่ายกว่าบุคคลทั่วไป และหากติดเชื้อแล้วจะมีผลทำให้เกิดพาวะแทรกซ้อนมากกว่าบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้เป็นเบาหวาน

เป็นเบาหวานตั้งครรภ์ได้ไหม ?
เพราะการสร้างครอบครัวคือหนึ่งในความฝันของผู้หญิงหลายๆ คน แต่สำหรับคนที่เป็นเบาหวานคงกังวลไม่น้อยว่าจะมีลูกได้ไหม ปลอดภัยหรือเปล่า เรามาฟังคำตอบกันที่นี่

13 วิธีดูแลตนเองของผู้ป่วยเบาหวานในยุค COVID-19
เนื่องจากผู้ป่วยเบาหวานเป็นกลุ่มบุคคลที่ถือว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงในการติดเชื้อ covid-19 โดยโรคเบาหวานนั้นจะทำให้ติดเชื้อ covid -19 ได้ง่ายกว่าบุคคลทั่วไป และหากติดเชื้อแล้วจะมีผลทำให้เกิดพาวะแทรกซ้อนมากกว่าบุคคลทั่วไปที่ไม่ได้เป็นเบาหวาน

เป็นเบาหวานตั้งครรภ์ได้ไหม ?
เพราะการสร้างครอบครัวคือหนึ่งในความฝันของผู้หญิงหลายๆ คน แต่สำหรับคนที่เป็นเบาหวานคงกังวลไม่น้อยว่าจะมีลูกได้ไหม ปลอดภัยหรือเปล่า เรามาฟังคำตอบกันที่นี่

สายกินต้องระวัง โรคอันตรายจากไขมันที่ต้องรู้ !
สายกินต้องระวัง! อาหารไขมันสูง ของทอดแสนอร่อยที่แฝงไปด้วยโรคไขมันตัวร้าย มาดูความลับทั้งประโยชน์และโทษของไขมัน ที่บั่นทอนสุขภาพคุณจนอาจเป็นโรคร้ายแรงได้มากกว่าที่คิด

3 สัญญาณที่บอกว่า คุณกำลังลดน้ำหนักผิดวิธี
เชื่อว่าหลายคนยังมีเป้าหมายในการลดน้ำหนัก แต่ปัญหาที่มักพบ คือ ลดน้ำหนักไม่สำเร็จสักที หรืออาจลดได้แค่ช่วงสั้นๆ แล้วกลับมาน้ำหนักเท่าเดิม ซึ่งสาเหตุอาจมาจากการลดน้ำหนักอย่างผิดวิธี