"ฝีดาษลิง"  โรคระบาดที่ใครๆ ก็พูดถึง... โดยเฉพาะในช่วง 1-2 ปีมานี้จริงๆ แล้วน่ากลัวแค่ไหน ? ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่าในช่วงนี้หลายคนอาจรู้สึกกังวลใจเมื่อได้ยินชื่อโรคนี้ เพราะการระบาดครั้งใหม่ที่ดูรุนแรงและติดเชื้อได้ง่ายกว่าที่เคย ทำเอาหลายคนตื่นตระหนกอยู่ไม่น้อย เพื่อให้คุณได้สบายใจ เตรียมพร้อมรับมือได้อย่างถูกต้อง ในบทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกแง่มุมของโรคฝีดาษลิง ตั้งแต่การติดต่อ อาการ กลุ่มเสี่ยงไปจนถึงวิธีป้องกันตัวเอง เพื่อให้คุณรับมือกับโรคนี้ได้อย่างมั่นใจและใช้ชีวิตได้อย่างไม่ตื่นตระหนกกัน

ฝีดาษลิง หรือฝีดาษวานร เกิดจากอะไร ?

ฝีดาษวานร หรือฝีดาษลิง (Monkeypox) เป็นโรคประจำถิ่นของประเทศในแถบแอฟริกา ที่สามารถติดต่อจากสัตว์สู่คนได้ ในกลุ่มสัตว์ตระกูลลิงและสัตว์ฟันแทะ โดยเกิดจากการติดเชื้อกลุ่ม Orthopoxvirus ซึ่งเป็นกลุ่มไวรัสเดียวกันกับโรคฝีดาษ หรือไข้ทรพิษ ที่สามารถติดต่อจากการสัมผัสกับผู้ที่ติดเชื้อ หรือสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ

ฝีดาษวานร ติดต่อทางไหนได้บ้าง

• จากสัตว์สู่คน ผ่านการสัมผัสสารคัดหลั่งจากแผลของสัตว์ที่ป่วย หรือกินเนื้อสัตว์ไม่สุกของสัตว์ที่ติดเชื้อ
• จากคนสู่คน ฝีดาษลิงสามารถติดต่อจากคนสู่คนได้ผ่านการสัมผัสแผลโดยตรง หรือสารคัดหลั่งของผู้ป่วยอย่างการไอ จาม ตุ่มหนอง รวมถึงการหายใจระยะประชิด อีกทั้งยังสามารถแพร่จากมารดาสู่ทารกในครรภ์ได้อีกด้วย ทั้งนี้ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าฝีดาษลิงนี้สามารถติดต่อกันได้ผ่านทางเพศสัมพันธ์ แต่ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมานี้ พบว่ามีรอยโรคใกล้บริเวณอวัยวะสืบพันธุ์เพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มของชายรักชาย จึงทำให้มีข้อสงสัย หรือการคาดการณ์ไว้ว่าสามารถติดต่อผ่านทางเพศสัมพันธ์ หรือการใกล้ชิดระหว่างมีเพศสัมพันธ์ได้

ลักษณะอาการของโรคฝีดาษวานร หรือโรคฝีดาษลิง

อาการของฝีดาษวานร แบ่งเป็น 4 ระยะ

1. ระยะฟักตัว ไม่มีอาการ 5 - 21 วัน หลังได้รับเชื้อ
2. ระยะไข้ 1 - 4 วัน ปวดหัว เจ็บคอ หนาวสั่น อ่อนเพลีย ต่อมน้ำเหลืองโต ซึ่งเป็นระยะที่สามารถแพร่เชื้อได้แล้ว
3. ระยะผื่น 2 - 4 สัปดาห์ เริ่มมีผื่นนูน + มีตุ่มน้ำใส - มีตุ่มหนอง -แผลตกสะเก็ด แห้งเป็นขุยและลอกออกเอง ซึ่งระยะออกผื่นเป็นช่วงที่สามารถแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายและมากที่สุด
4. ระยะฟื้นตัว ซึ่งจะใช้เวลาหลายวัน หรือหลายสัปดาห์ เป็นช่วงที่ผื่นที่ตกสะเก็ดจนแห้ง ร่วงหลุดไป และจะไม่มีเชื้อให้แพร่กระจายต่อได้

 

ทั้งนี้โรคฝีดาษวานร หรือฝีดาษลิงเป็นโรคที่สามารถหายเองได้ภายใน 2-4 สัปดาห์ มีโอกาสเสียชีวิตต่ำ โดยมีอัตราการเสียชีวิตโดยรวมอยู่ที่ประมาณ 0-11% สำหรับแนวทางการรักษาฝีดาษลิงนั้นมียาต้านไวรัสของฝีดาษคนและฝีดาษลิงที่สามารถรักษาโรคได้ แต่ทั้งนี้อาจมีอาการแทรกซ้อนที่รุนแรง เช่น การติดเชื้อซ้ำซ้อน ติดเชื้อที่กระจกตา ติดเชื้อในกระแสเลือด ปอดอักเสบ เยื่อหุ้มสมองอักเสบ เป็นต้นได้ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ดังนี้

กลุ่มเสี่ยงที่จะมีอาการรุนแรงเมื่อได้รับเชื้อฝีดาษวานร

• ผู้ติดเชื้อ HIV, ผู้ป่วยมะเร็งและปลูกถ่ายอวัยวะ
• ผู้หญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตร
• เด็ก อายุต่ำกว่า 8 ปี

วิธีการป้องกันฝีดาษวานร

• กินอาหารปรุงสุก
• สวมหน้ากากอนามัยและหมั่นล้างมือบ่อยๆ
• ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น
• เลี่ยงสัมผัสโดยตรงกับสารคัดหลั่งและตุ่มหนองของผู้ป่วยและสัตว์
• เลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์กับคนไม่รู้จัก หรือเปลี่ยนคู่นอนบ่อย

ฝีดาษลิงจะไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป ! จากการเป็นเพียงโรคระบาดที่เคยสงบไปและกลับมาแพร่ระบาดอีกครั้ง แม้อาจจะทำให้หลายคนตื่นตระหนกและกังวลใจ แต่จากข้อมูลที่เราได้นำมาฝากเหล่านี้เชื่อว่าจะช่วยลดความกังวล และพร้อมรับมือกับการแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นในครั้งต่อไปได้อย่างถูกต้อง

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและนัดหมายแพทย์ได้ที่
ศูนย์อายุรกรรม ชั้น 3 โรงพยาบาลวิมุต
เวลาทำการ 07:00-24:00  น. โทร. 0-2079-0030 
หรือดาวน์โหลด ViMUT Application เพื่อนัดหมายแพทย์ หรือบริการปรึกษาหมอออนไลน์ 

ทุกปัญหาสุขภาพ ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางออนไลน์ ที่พร้อมดูแลคุณด้วยความใส่ใจ