วิธีแก้ปวดหัวไมเกรน บรรเทาอาการบื้องต้นด้วยวิธีธรรมชาติ
กินอะไรหาย นวดไมเกรนช่วยบรรเทาอาการปวดได้หรือไม่ ในบทความนี้เรามีคำตอบ และวิธีบรรเทาอาการเบื้องต้นด้วยวิธีธรรมชาติที่ทำได้ง่ายๆ แถมปลอดภัยมาฝาก
เคล็ดลับบรรเทาไมเกรน แก้ปวดหัวด้วยวิธีธรรมชาติ
ไมเกรน (Migrain) คือ โรคที่เกิดจากการบีบและคลายตัวของหลอดเลือดแดงผิดปกติ โดยมีปัจจัยกระตุ้น เช่น ฮอร์โมน ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ และอาหารบางชนิด ส่งผลให้ปวดหัวและอาจมีอาการร่วม เช่น ตาพร่ามัว คลื่นไส้ หรืออาเจียน ซึ่งนอกจากการรักษาเบื้องต้นด้วยยาแก้ปวดแล้ว ยังสามารถรักษาได้ด้วยวิธีธรรมชาติที่ปลอดภัยในระยะยาว ดังนี้
1. การนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
การนอนหลับที่ดีเป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยลดอาการไมเกรน เพราะการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ หรือการนอนหลับไม่เป็นเวลาอาจกระตุ้นให้เกิดอาการปวดหัวได้ โดยการนอนหลับที่เหมาะสมควรมีระยะเวลา 7 - 8 ชั่วโมงต่อคืน และควรเข้านอนและตื่นในเวลาเดียวกันทุกวัน แม้ในวันหยุด ซึ่งการสร้างบรรยากาศห้องนอนให้สงบ มืด และเงียบ รวมถึงหลีกเลี่ยงการใช้โทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์ก่อนนอนอย่างน้อย 1 ชั่วโมง จะช่วยให้การนอนหลับมีคุณภาพมากขึ้น
2. การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
การออกกำลังกายช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ลดความเครียด และเพิ่มสารเอ็นโดรฟินในร่างกาย ซึ่งช่วยลดความถี่ของอาการไมเกรนได้ การออกกำลังกายที่เหมาะสมควรเป็นกิจกรรมที่ใช้แรงไม่หนักจนเกินไป เช่น เดินเร็ว โยคะ หรือปั่นจักรยาน โดยควรทำอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน และ 3 - 5 วันต่อสัปดาห์ อย่างไรก็ตาม ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนักเกินไป เพราะอาจกระตุ้นให้เกิดไมเกรนได้ในผู้ป่วยบางคน
3. การจัดการความเครียด
ความเครียดเป็นหนึ่งในปัจจัยกระตุ้นไมเกรนที่พบบ่อยที่สุด การเรียนรู้วิธีจัดการความเครียดจะช่วยลดโอกาสการเกิดไมเกรนได้ ดังนั้น การฝึกการทำสมาธิหรือการหายใจลึกๆ เพื่อผ่อนคลายจิตใจ รวมถึงการฝึกโยคะ ก็ถือเป็นวิธีบรรเทาอาการปวดไมเกรนที่มีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ การใช้เวลาทำกิจกรรมที่ชอบ เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง หรือทำสวน ก็สามารถช่วยลดความเครียดในชีวิตประจำวัน และลดอาการปวดไมเกรนได้เช่นเดียวกัน
4. หลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นไมเกรน
ปัจจัยกระตุ้นไมเกรนล้วนแตกต่างกันไปในแต่ละคน การสังเกตและหลีกเลี่ยงสิ่งกระตุ้นเหล่านี้สามารถช่วยลดอาการได้ ตัวอย่างปัจจัยกระตุ้นที่พบบ่อย ได้แก่ แสงจ้า เสียงดัง หรือกลิ่นแรง เช่น น้ำหอม หรือควันบุหรี่ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของอากาศหรืออุณหภูมิ อาหารบางชนิด เช่น ช็อกโกแลต คาเฟอีน แอลกอฮอล์ ผงชูรส หรืออาหารหมักดอง ก็อาจกระตุ้นอาการไมเกรนได้ ดังนั้นการจดบันทึกอาการไมเกรนและปัจจัยที่เกี่ยวข้องจะช่วยให้คุณค้นหาสาเหตุที่กระตุ้นอาการ และสามารถหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านั้นได้
5. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ลดปวดไมเกรน
ปวดไมเกรน กินอะไรหาย ? หลายคนที่มีอาการปวดไมเกรนบ่อยครั้งอาจจะเคยตั้งคำถาม และพยายามหาอาหารเสริมมาช่วยบรรเทา แต่รู้หรือไม่ว่าเพียงรับประทานอาหารที่ดีมีส่วนช่วยเสริมสร้างสุขภาพก็สามารถลดความเสี่ยงของไมเกรนได้ ควรหลีกเลี่ยงการข้ามมื้ออาหาร เพราะอาจส่งผลให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำและอาจเป็นการกระตุ้นไมเกรนได้ นอกจากนี้ ควรรับประทานอาหารที่มีแมกนีเซียมสูง เช่น ผักใบเขียว เมล็ดพืช ถั่ว และกล้วย เพราะแมกนีเซียมเป็นแร่ธาตุที่มีคุณสมบัติช่วยลดการหดเกร็งกล้ามเนื้อของหลอดเลือด จึงช่วยลดโอกาสของการเกิดไมเกรนได้
6. การประคบร้อนหรือเย็น
การประคบร้อนหรือเย็นสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดหัวไมเกรนได้ การใช้ผ้าขนหนูชุบน้ำเย็นหรือห่อน้ำแข็ง ประคบบริเวณหน้าผากหรือขมับประมาณ 15 - 20 นาที จะช่วยลดอาการปวดหัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากปวดหัวจากความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ การใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นหรือแผ่นประคบร้อนวางบริเวณต้นคอจะช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อและลดอาการปวดได้
7. นวดลดไมเกรน
การนวดช่วยผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ตึงตัว เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด หรือการนวดเบาๆ บริเวณขมับ ต้นคอ และไหล่สามารถช่วยลดอาการปวดหัวไมเกรนได้ นอกจากนี้ การใช้เทคนิคการกดจุด (Acupressure) โดยกดเบาๆ บริเวณจุดที่ปวดก็สามารถช่วยบรรเทาอาการปวดไมเกรนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
8. การใช้กลิ่นบำบัด (Aromatherapy)
กลิ่นหอมจากน้ำมันหอมระเหยบางชนิดสามารถช่วยลดความเครียดและบรรเทาไมเกรนได้ เช่น ลาเวนเดอร์ เปเปอร์มินต์ หรือโรสแมรี่ มีคุณสมบัติช่วยผ่อนคลายและลดอาการปวดหัว การใช้น้ำมันหอมระเหยทาบริเวณขมับหรือสูดดม หรือใช้เครื่องพ่นไอน้ำพร้อมน้ำมันหอมระเหยในห้องนอน จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายและลดความเครียดได้
9. การปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิต
การปรับพฤติกรรมบางอย่างในชีวิตประจำวันสามารถช่วยลดความถี่ของไมเกรนได้ เช่น หลีกเลี่ยงการใช้คอมพิวเตอร์หรือโทรศัพท์มือถือเป็นเวลานาน จัดท่าทางการนั่งหรือยืนให้เหมาะสม เพื่อลดความตึงเครียดของกล้ามเนื้อ และหลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่
การลดอาการปวดหัวไมเกรนด้วยวิธีธรรมชาติไม่เพียงช่วยลดอาการปวดได้อย่างปลอดภัย แต่ยังช่วยปรับสมดุลของร่างกายและจิตใจในระยะยาว การดูแลสุขภาพอย่างครบถ้วนทั้งการพักผ่อน การออกกำลังกาย การรับประทานอาหาร และการจัดการความเครียด จะช่วยให้คุณห่างไกลจากอาการไมเกรนได้อย่างยั่งยืน หากลองวิธีธรรมชาติแล้วยังไม่สามารถบรรเทาอาการได้ หรือมีอาการรุนแรงขึ้น ควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาอย่างเหมาะสม
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและนัดหมายแพทย์ได้ที่
ศูนย์สมองและระบบประสาท ชั้น 6 โรงพยาบาลวิมุต
เวลาทำการ 8.00 - 17.00 น. โทร. 0-2079-0068
หรือดาวน์โหลด ViMUT Application เพื่อนัดหมายแพทย์ หรือบริการปรึกษาหมอออนไลน์
ทุกปัญหาสุขภาพ ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางออนไลน์ ที่พร้อมดูแลคุณด้วยความใส่ใจ

แนะนำแพทย์ที่เกี่ยวข้อง
เรื่องสุขภาพน่ารู้ที่เกี่ยวข้อง

เช็กด่วน! ปวดหัวข้างเดียวแบบนี้ ใช่ไมเกรนหรือไม่
ชวนคุณมารู้ให้ลึกเรื่องของหัวจะปวด กับปวดหัวไมเกรน สาเหตุกระตุ้นเกิดจากอะไร ไมเกรนมีกี่แบบ วิธีบรรเทาอาการปวดอย่างถูกต้อง และคำตอบว่าปวดไมเกรนต่างจากปวดหัวธรรมดาอย่างไร

ลืมง่าย จำยาก สัญญาณเตือนโรคอัลไซเมอร์
โรคอัลไซเมอร์ภัยเงียบที่อันตรายมากกว่าการหลงลืม เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง เกี่ยวข้องอย่างไรกับภาวะสมองเสื่อม เช็กอาการบ่งชี้และวิธีการรักษาได้ที่นี่

ระวัง! สัญญาณเตือน สโตรก (Storke) ของหลุดมือบ่อย น้ำลายไหลมุมปาก
สโตรก(stroke) หรือโรคหลอดเลือดสมองตีบ แตก หรืออุดตัน ส่งผลให้เกิดอาการแขนขาไม่มีแรงเฉียบพลัน หน้าเบี้ยว น้ำลายไหลมุมปาก หยิบจับของแล้วหล่น สัญญาณเตือนให้เข้ารับการรักษาด่วนที่สุด เพราะอาจทำให้เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต

ฝึกสมองให้ฟิตอยู่เสมอกับ 5 เคล็ดลับ ลับสมองให้คม
ไม่อยากเป็นอัลไซเมอร์ สมองเสื่อม ขี้หลงขี้ลืมตั้งแต่ยังหนุ่มสาว มาฝึกสมอง ออกกำลังกายความคิด กระตุ้นให้สมองฟิต สดชื่นปลอดโปร่งกับ 5 วิธีนี้เลย

เช็กด่วน! ปวดหัวข้างเดียวแบบนี้ ใช่ไมเกรนหรือไม่
ชวนคุณมารู้ให้ลึกเรื่องของหัวจะปวด กับปวดหัวไมเกรน สาเหตุกระตุ้นเกิดจากอะไร ไมเกรนมีกี่แบบ วิธีบรรเทาอาการปวดอย่างถูกต้อง และคำตอบว่าปวดไมเกรนต่างจากปวดหัวธรรมดาอย่างไร

ลืมง่าย จำยาก สัญญาณเตือนโรคอัลไซเมอร์
โรคอัลไซเมอร์ภัยเงียบที่อันตรายมากกว่าการหลงลืม เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง เกี่ยวข้องอย่างไรกับภาวะสมองเสื่อม เช็กอาการบ่งชี้และวิธีการรักษาได้ที่นี่

ระวัง! สัญญาณเตือน สโตรก (Storke) ของหลุดมือบ่อย น้ำลายไหลมุมปาก
สโตรก(stroke) หรือโรคหลอดเลือดสมองตีบ แตก หรืออุดตัน ส่งผลให้เกิดอาการแขนขาไม่มีแรงเฉียบพลัน หน้าเบี้ยว น้ำลายไหลมุมปาก หยิบจับของแล้วหล่น สัญญาณเตือนให้เข้ารับการรักษาด่วนที่สุด เพราะอาจทำให้เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต

ฝึกสมองให้ฟิตอยู่เสมอกับ 5 เคล็ดลับ ลับสมองให้คม
ไม่อยากเป็นอัลไซเมอร์ สมองเสื่อม ขี้หลงขี้ลืมตั้งแต่ยังหนุ่มสาว มาฝึกสมอง ออกกำลังกายความคิด กระตุ้นให้สมองฟิต สดชื่นปลอดโปร่งกับ 5 วิธีนี้เลย

ระวัง! สัญญาณเตือน สโตรก (Storke) ของหลุดมือบ่อย น้ำลายไหลมุมปาก
สโตรก(stroke) หรือโรคหลอดเลือดสมองตีบ แตก หรืออุดตัน ส่งผลให้เกิดอาการแขนขาไม่มีแรงเฉียบพลัน หน้าเบี้ยว น้ำลายไหลมุมปาก หยิบจับของแล้วหล่น สัญญาณเตือนให้เข้ารับการรักษาด่วนที่สุด เพราะอาจทำให้เป็นอัมพฤกษ์ อัมพาต หรือร้ายแรงถึงขั้นเสียชีวิต

ฝึกสมองให้ฟิตอยู่เสมอกับ 5 เคล็ดลับ ลับสมองให้คม
ไม่อยากเป็นอัลไซเมอร์ สมองเสื่อม ขี้หลงขี้ลืมตั้งแต่ยังหนุ่มสาว มาฝึกสมอง ออกกำลังกายความคิด กระตุ้นให้สมองฟิต สดชื่นปลอดโปร่งกับ 5 วิธีนี้เลย

เช็กด่วน! ปวดหัวข้างเดียวแบบนี้ ใช่ไมเกรนหรือไม่
ชวนคุณมารู้ให้ลึกเรื่องของหัวจะปวด กับปวดหัวไมเกรน สาเหตุกระตุ้นเกิดจากอะไร ไมเกรนมีกี่แบบ วิธีบรรเทาอาการปวดอย่างถูกต้อง และคำตอบว่าปวดไมเกรนต่างจากปวดหัวธรรมดาอย่างไร

ลืมง่าย จำยาก สัญญาณเตือนโรคอัลไซเมอร์
โรคอัลไซเมอร์ภัยเงียบที่อันตรายมากกว่าการหลงลืม เกิดจากสาเหตุใดได้บ้าง เกี่ยวข้องอย่างไรกับภาวะสมองเสื่อม เช็กอาการบ่งชี้และวิธีการรักษาได้ที่นี่