ปัสสาวะเป็นเลือด ปวดท้อง แสบขัด ต้องระวัง! เสี่ยง ‘มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ’... คุณเคยสังเกตตัวเองบ้างไหม ? กับบางสัญญาณเล็กๆ น้อยๆ ที่ร่างกายพยายามบอก โดยเฉพาะเรื่องการปัสสาวะ อย่างการปัสสาวะบ่อย แสบขัด ฉี่ปนเลือด เป็นสีน้ำตาล หรือมีลิ่มเลือดปนออกมา และอาจมีอาการทางปอดหรือไม่มีอาการก็ได้ หากคุณกำลังเผชิญกับอาการเหล่านี้ต้องระวัง เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณเตือนของ ‘มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ’ โรคที่ฟังดูน่ากลัว แต่จริงๆ แล้วยิ่งรู้เร็ว ยิ่งมีโอกาสหายสูง!

มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ (Bladder cancer) เป็นมะเร็งที่พบได้บ่อยในระบบทางเดินปัสสาวะ โดยเกิดขึ้นเมื่อเซลล์ในกระเพาะปัสสาวะเจริญเติบโตผิดปกติจนกลายเป็นเนื้องอก ซึ่งหากไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้องก็มีโอกาสลุกลามไปยังบริเวณอื่นได้ และแม้ว่ามะเร็งกระเพาะปัสสาวะจะเป็นโรคร้ายแรง แต่หากตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มต้นก็มีโอกาสหายได้สูง ดังนั้น การรู้เท่าทันโรคนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม

สาเหตุและปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้มีโอกาสเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

สาเหตุที่แน่ชัดของมะเร็งกระเพาะปัสสาวะยังไม่เป็นที่ทราบแน่ชัด แต่มีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างที่อาจเพิ่มโอกาสในการเกิดโรคได้

• การสูบบุหรี่
• การสัมผัสสารเคมี
• อายุที่มากขึ้น โดยเฉพาะผู้ที่มีอายุ 55 ปีขึ้นไป
• เพศชายมีโอกาสเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะมากกว่าเพศหญิง
• กรรมพันธุ์ หรือประวัติครอบครัวสายตรงเป็นมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ อาจเพิ่มความเสี่ยง
• การติดเชื้อในกระเพาะปัสสาวะเรื้อรัง
• การดื่มน้ำน้อย

เช็กลิสต์อาการของมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ อาการแบบไหนเข้าข่ายเสี่ยงบ้าง

อาการที่พบบ่อยที่สุด คือ ปัสสาวะเป็นเลือด หรือฉี่ปนเลือด ซึ่งในรายที่รุนแรงอาจมีปัสสาวะสีแดงสด หรือสีน้ำตาลเข้ม หากไม่รุนแรงมากอาจสังเกตเห็นปัสสาวะออกมาเป็นสีชมพูคล้ายน้ำล้างเนื้อ โดยมักไม่มีอาการเจ็บปวดและที่สำคัญคืออาการดังกล่าวสามารถพบได้เอง นอกจากนี้ ยังมีอาการทั่วไปอื่นๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้ เช่น

• ปัสสาวะบ่อย 
• ปัสสาวะแสบขัดที่คล้ายคลึงกับอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ 
• ปวดท้องน้อย หรือบริเวณปลายท่อปัสสาวะ
• ปวดหลังส่วนล่าง 
• เบื่ออาหาร
• น้ำหนักลด
• อ่อนเพลีย

อาการตามระยะของโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

• มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ระยะที่ 0: พบเซลล์มะเร็งเฉพาะในชั้นเยื่อบุผิวของกระเพาะปัสสาวะ มักไม่แสดงอาการ หรือมีอาการคล้ายกระเพาะปัสสาวะอักเสบ เช่น ปัสสาวะบ่อย
• มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ระยะที่ 1: เซลล์มะเร็งลุกลามเข้าสู่ชั้นเนื้อเยื่อเกี่ยวพัน แต่ยังอยู่ในขอบเขตไม่ลุกลามไปยังกล้ามเนื้อของกระเพาะปัสสาวะ อาจมีปัสสาวะเป็นเลือด หรือฉี่ปนเลือดออกมาบ้าง
• มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ระยะที่ 2: เซลล์มะเร็งลุกลามเข้าสู่ชั้นกล้ามเนื้อของกระเพาะปัสสาวะ แต่ยังอยู่ในกระเพาะปัสสาวะ อาจมีปัสสาวะเป็นเลือด ปัสสาวะบ่อย ปัสสาวะแสบขัด
• มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ ระยะที่ 3: เซลล์มะเร็งลุกลามออกนอกกระเพาะปัสสาวะไปยังเนื้อเยื่อไขมัน หรืออวัยวะข้างเคียง เช่น ต่อมลูกหมาก ช่องคลอด มดลูก ซึ่งอาจมีอาการปวดในอวัยวะที่มะเร็งลุกลามไป
• ระยะที่ 4: เซลล์มะเร็งแพร่กระจายไปยังต่อมน้ำเหลือง หรืออวัยวะอื่นๆ เช่น ปอด ตับ หรือกระดูก อาจมีอาการ ปวดกระดูก ไอเรื้อรัง เหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร น้ำหนักลดได้

วิธีการตรวจวินิจฉัยหาโรคมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

สำหรับผู้ที่มีอาการตามที่กล่าวข้างต้น แนะนำให้เข้าปรึกษาแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยอย่างละเอียด เพราะอาการของโรคนั้นมีความคล้ายคลึงกับโรคกระเพาะปัสสาวะอักเสบ โดยในการตรวจวินิจฉัยแพทย์จะทำการซักประวัติและตรวจร่างกาย โดยจะมีการเก็บปัสสาวะตรวจทางห้องปฏิบัติการ และหากพบว่ามีเม็ดเลือดขาวและเซลล์มะเร็งปะปน จะมีการตรวจเพิ่มเติมด้วยการส่องกล้องตรวจกระเพาะปัสสาวะ (Cystoscopy) ร่วมกับการตัดชิ้นเนื้อ (Biopsy) และอาจจะมีการตรวจดูตำแหน่งและขนาดของก้อนเนื้อด้วยการ CT scan หรือ MRI เพิ่มได้ตามดุลยพินิจของแพทย์

แม้ ‘มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ’ จะเป็นโรคร้ายแรงที่สร้างความกังวลใจ แต่ข่าวดีก็คือโรคนี้มีโอกาสรักษาให้หายได้สูง หากตรวจพบตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ด้วยทางเลือกที่หลากหลายตามระยะของโรคและสุขภาพของแต่ละคน ทั้งการผ่าตัด ฉายแสง เคมีบำบัด หรือภูมิคุ้มกันบำบัด ที่โรงพยาบาลวิมุตเรามีทีมแพทย์ผู้ชำนาญการและเทคโนโลยีที่ทันสมัย พร้อมให้บริการวินิจฉัยและรักษามะเร็งกระเพาะปัสสาวะอย่างครบวงจร เพื่อให้ผู้ป่วยมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและนัดหมายแพทย์ได้ที่
ศูนย์ระบบทางเดินปัสสาวะ ชั้น 4 โรงพยาบาลวิมุต 
เวลาทำการ 07:00 - 20:00 น. โทร. 0-2079-0040 
หรือดาวน์โหลด ViMUT Application เพื่อนัดหมายแพทย์ หรือบริการปรึกษาหมอออนไลน์  

ทุกปัญหาสุขภาพ ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางออนไลน์ ที่พร้อมดูแลคุณด้วยความใส่ใจ