ตรวจตาเด็กก่อนวัยเรียน สิ่งที่พ่อแม่ไม่ควรละเลย

สุขภาพของดวงตานั้นสำคัญต่อพัฒนาการของเด็กในทุกช่วงวัย แต่สำหรับในเด็กเล็กที่ไม่รู้ว่ามีความผิดปกติเกิดขึ้นกับการมองเห็น ยังไม่สามารถสื่อสารได้ดี หรือบอกความผิดปกติในการมองเห็นให้กับคุณพ่อคุณแม่ได้นั้น อาจส่งผลต่อพัฒนาการและการใช้ชีวิตในอนาคตได้ ดังนั้นการตรวจตาในเด็ก โดยเฉพาะในวัยก่อนเข้าเรียนจึงเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรละเลย ซึ่งการตรวจตาหาความผิดปกติ หรือโรคตาในเด็กก่อนวัยเรียนต้องตรวจอะไรบ้าง วันนี้เรามาดูกัน

การตรวจตาในเด็กก่อนเข้าวัยเรียน อายุ 2-6 ขวบ ต้องตรวจอะไรบ้าง ?

1. ตรวจวัดระดับการมองเห็น

วิธีการตรวจตาโดยทั่วไปในเด็กวัยก่อนเข้าเรียนนั้นสามารถทำได้โดยให้เด็กมองรูปภาพขาวดำ และบอกว่าเป็นรูปอะไร ซึ่งเราสามารถสังเกตพฤติกรรมว่ามีความผิดปกติในการมองเห็นหรือไม่ เช่น มีการขยี้ตา เอียงหัว หรือกะพริบตาถี่ๆ หรือไม่ 

2. ตรวจการมองเห็นภาพสามมิติ (Stereopsis)

การตรวจสุขภาพตานี้เป็นการตรวจเพื่อดูพัฒนาการในการมองเห็นของเด็ก ว่าสามารถคำนวณระยะการมองภาพใกล้และไกลได้ตามพัฒนาการหรือไม่ ซึ่งโดยปกติแล้วตาทั้ง 2 ข้างต้องสามารถเบนเข้าหากันเพื่อมองวัตถุระยะใกล้ หรือเบนห่างจากกันในลักษณะขนานเพื่อมองวัตถุระยะไกล

3. ประเมินตาบอดสี (Color Blindness)

ตาบอดสีเป็นโรคตาชนิดหนึ่งที่ถ่ายทอดผ่านทางพันธุกรรม แม้ว่าโรคนี้จะยังไม่มีการรักษาแต่การรู้ว่ามีปัญหาตาบอดสีจะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอันตรายในการใช้ชีวิตและปรับพฤติกรรมการเลี้ยงดูเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการอื่นๆ ได้ โดยคุณหมอจะให้ตัวเด็กบอกตัวเลขที่มองเห็นบนแผ่นกระดาษที่มีหลากสี หรือในเด็กเล็กที่ยังไม่รู้จักตัวเลข แผ่นกระดาษตัวเลขอาจถูกเปลี่ยนเป็นรูปเลขาคณิต หรือรูปสิ่งต่างๆ ที่เด็กสามารถสื่อสารออกมาได้ ซึ่งวิธีนี้จะช่วยประเมินได้ว่าเด็กมีภาวะของตาบอดสีหรือไม่

4. ประเมินการมองเห็น (Visual Acuity)

การตรวจสุขภาพตานี้เป็นการตรวจเพื่อหาโรคตาขี้เกียจ (Lazy eye) ซึ่งเป็นปัญหาของสายตาประเภทหนึ่งที่ทำให้การมองเห็นไม่ชัด ส่วนมากมักเป็นข้างใดข้างหนึ่ง หากปล่อยทิ้งไว้ดวงตาของเด็กจะสูญเสียพัฒนาการการมองเห็น และอาจสูญเสียการมองเห็นในระยะยาวได้ โดยการตรวจการมองเห็นเพื่อหาโรคตาขี้เกียจมีหลายเทคนิควิธี เช่น การวัดค่าสายตา ตรวจภาวะตาเหล่ ตรวจว่าหนังตาตกหรือไม่ เป็นต้น

5. ตรวจการเคลื่อนไหวของตา (Eye Movement)

ตรวจการทำงานของกล้ามเนื้อตาว่าทำงานได้ปกติหรือไม่ รวมถึงเป็นการตรวจว่ามีภาวะตาเข หรือตาเหล่หรือไม่ โดยส่วนมากคุณหมอมักจะนำของเล่น หรือสิ่งของมากระตุ้นความสนใจให้เด็กได้มองตาม โดยการเลื่อนซ้ายขวาและขึ้นลง เพื่อดูความผิดปกติของดวงตา รวมถึงการนำไฟมาส่องระหว่างคิ้ว และดูจุดที่แสงตกกระทบลงบนดวงตาว่าตาทั้ง 2 ข้าง อยู่ในตำแหน่งกึ่งกลางของตาดำหรือไม่ หากมีข้างใดข้างหนึ่งแสงไม่กระทบกลางตาดำ อาจบอกได้ว่าดวงตาข้างนั้นอาจมีภาวะตาเข หรือตาเหล่ได้ 

6. การตรวจวัดสายตาด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์

สุดท้ายคือการวัดค่าสายตาด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อตรวจค่าสายตาว่าสายตาสั้น สายตายาว หรือสายตาเอียงหรือไม่ เพื่อประกอบการพิจารณาว่าเด็กจำเป็นต้องใส่แว่นตาหรือไม่ และในบางกรณีคุณหมออาจมีการหยอดยาขยายม่านตาในการตรวจให้ละเอียดเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้เด็กมีอาการตาพร่ามัวได้ 24 ชั่วโมง ซึ่งจะกลับมาเป็นปกติได้ในวันถัดไป

ทั้งหมดนี้คือการตรวจตาเบื้องต้นในเด็กวัยก่อนเข้าเรียนที่แนะนำว่าคุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกน้อยที่คุณรักไปตรวจ หากเกิดปัญหาจะได้รับการรักษาได้อย่างทันท่วงที และยังช่วยให้เขาเติบโตตามวัยเป็นปกติ ทั้งนี้คุณพ่อคุณแม่เองก็ยังคงต้องเอาใจใส่และคอยสังเกตพฤติกรรมการใช้สายตาของเด็กอยู่เสมอด้วย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและนัดหมายแพทย์ได้ที่
ศูนย์จักษุ ชั้น 5 โรงพยาบาลวิมุต 

เวลาทำการ 08.00 - 20.00 น. โทร. 0-2079-0058

หรือดาวน์โหลด ViMUT Application เพื่อนัดหมายแพทย์ หรือบริการปรึกษาหมอออนไลน์

ทุกปัญหาสุขภาพ ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางออนไลน์ ที่พร้อมดูแลคุณด้วยความใส่ใจ