ผ่าตัดไส้เลื่อน วิธีรักษาโรคไส้เลื่อนให้หายได้

ปัญหาปวดท้องมีก้อนนูนยื่นออกมาอย่าง “โรคไส้เลื่อน” ถูกนับให้เป็นหนึ่งในโรคที่มีคนเข้าใจผิดไม่น้อยว่าโรคนี้สามารถเกิดขึ้นได้แต่กับผู้ชายเท่านั้น แต่ความจริงแล้วโรคนี้ก็สามารถเกิดขึ้นได้ในผู้หญิงเช่นกัน และในปัจจุบันวิธีการรักษาโรคไส้เลื่อนให้หายได้ก็ยังคงมีทางเดียวนั่นคือการผ่าตัดไส้เลื่อนด้วยเทคนิคต่างๆ สำหรับใครที่กำลังมีปัญหาเป็นโรคไส้เลื่อนและกำลังหาข้อมูลเกี่ยวกับการผ่าตัดไส้เลื่อนอยู่ วันนี้เรารวบรวมมาให้ที่นี่แล้ว

ไส้เลื่อนเกิดจากอะไร ทำไมต้องใช้วิธีการรักษาด้วยการผ่าตัดไส้เลื่อน

โรคไส้เลื่อน (Hernia) เกิดจากเยื่อบุช่องท้อง หรือกล้ามเนื้อผนังหน้าท้องอ่อนแอทำให้ลำไส้ หรือก้อนไขมันเลื่อนออกไปแทนที่ ซึ่งเป็นจุดที่ไม่ควรอยู่ จึงทำให้ผู้ป่วยสัมผัสได้ว่ามีก้อนเนื้อนูนยื่นออกมา โดยหากก้อนไขมัน หรือลำไส้เลื่อนออกมาไม่มาก การนอนในแนวราบก็สามารถกดให้ก้อนดังกล่าวเลื่อนกลับเข้าไปได้ แต่เมื่อต้องออกแรงยกของหนัก ไอ หรือจาม ลำไส้ก็จะเลื่อนกลับมาให้เห็นก้อนนูนได้อย่างชัดเจน 

ซึ่งโรคลำไส้เลื่อนนี้ไม่สามารถรักษาโดยการรับประทานยาได้ การปล่อยลำไส้เลื่อนเอาไว้นานๆ โดยไม่ได้รับการรักษาด้วยการผ่าตัด หรืออยู่ในการดูแลของแพทย์ อาจทำให้ก้อนลำไส้ที่เลื่อนมีขนาดใหญ่ขึ้น รวมถึงทำให้เกิดการอุดตันในลำไส้และทำให้เลือดไม่ไปหล่อเลี้ยงลำไส้ส่วนนั้น ซึ่งจะทำให้ลำไส้เน่าและเป็นอันตรายต่อชีวิตได้

รักษาโรคไส้เลื่อนให้หายได้ ด้วยการผ่าตัดไส้เลื่อน

การผ่าตัดไส้เลื่อนมี ทั้ง 2 วิธีใหญ่ๆ ดังนี้

1. ผ่าตัดไส้เลื่อนแบบเปิดหน้าท้อง

วิธีนี้เป็นวิธีแบบดั้งเดิมซึ่งเป็นการผ่าตัดเพื่อตัดเอาถุงไส้เลื่อนออก ร่วมกับการเย็บช่องว่างปิดด้วยกล้ามเนื้อ หรือใช้สกรูยึดตาข่ายสังเคราะห์ด้วยหมุดโลหะกับกล้ามเนื้อผนังหน้าท้องเพื่อเสริมความแข็งแรงให้กับผนังหน้าท้อง 

ซึ่งข้อดีของการการผ่าตัดไส้เลื่อนแบบเปิดหน้าท้องนี้แพทย์สามารถใช้ยาชาเฉพาะที่ได้ โดยเหมาะกับผู้ป่วยที่มีโรคประจำตัว หรือผู้ที่ไม่สามารถดมยาสลบได้ รวมถึงผู้ป่วยที่ไม่สามารถบล็อกหลังได้

2. ผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้อง (MIS)

การผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้องเป็นการผ่าตัดรูปแบบใหม่ โดยแพทย์จะทำการผ่าตัดผ่านรูเล็กๆ ประมาณ 1.5 ซม. 1 แผล และ 0.5 ซม. 2 แผล จากนั้นจึงสอดกล้องและเครื่องมือเข้าไปตรวจดูอวัยวะภายใน แล้วดึงถุงไส้เลื่อนกลับเข้ามาในช่องท้อง แล้ววางแผ่นตาข่ายสังเคราะห์ปิดช่องว่างแล้วยึดด้วยหมุดทางการแพทย์ หรือการเย็บผ่านการส่องกล้องกับกล้ามเนื้อผนังหน้าท้องเพื่อเสริมความแข็งแรงให้กับผนังหน้าท้องเช่นเดียวกันกับวิธีการผ่าตัดแบบเปิดหน้าท้อง

สำหรับข้อดีของการผ่าตัดไส้เลื่อนแบบส่องกล้องนั้น จุดเด่นคือมีแผลผ่าตัดเล็ก ผู้ป่วยจะรู้สึกเจ็บน้อยมาก เสียเลือดน้อยและที่สำคัญสามารถฟื้นตัวได้ไว พักฟื้นเพียง 1-2 วัน ก็สามารถกลับไปใช้ชีวิตตามปกติได้ 

การดูแลตัวเองและข้อควรระวังหลังการผ่าตัดไส้เลื่อน

หลังการผ่าตัดผู้ป่วยอาจมีอาการมึนงงจากยาสลบ รวมถึงอาการอ่อนเพลียจากการผ่าตัด และอาจมีอาการชาที่ผิวหนังบริเวณใกล้เคียงกับแผลผ่าตัดได้ ซึ่งเป็นอาการที่สามารถพบเจอได้เป็นปกติหลังการผ่าตัด และเพื่อให้แผลผ่าตัดหายได้เร็วขึ้น หลังการผ่าตัดควรดูแลตัวเองและปฏิบัติตามคำแนะนำ ดังนี้

• หากมีอาการปวดสามารถรับประทานยาแก้ปวดได้
• หลีกเลี่ยงการยกของหนัก ออกกำลังกายหน้าท้อง หลังการผ่าตัด 4-6 สัปดาห์
• หลีกเลี่ยงการเบ่งปัสสาวะ หรืออุจจาระ รวมทั้งการไอ จาม ผายลม หรือหาวอย่างรุนแรง
• ระวังแผลเปียกชื้นจากน้ำ หลีกเลี่ยงการแกะ เกาแผลผ่าตัด เพื่อลดความเสี่ยงจากการติดเชื้อ
• หากพบว่าแผลมีความผิดปกติ เช่น มีหนอง หรือเลือดไหลออกมาจากแผล หรือมีอาการปวดรุนแรงขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์

การรักษาโรคไส้เลื่อนสามารถหายได้ด้วยการผ่าตัด ซึ่งในปัจจุบันการผ่าตัดก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด สำหรับท่านใดที่กำลังมีปัญหาเป็นโรคไส้เลื่อนและต้องการเข้ารับการผ่าตัดไส้เลื่อน สามารถติดต่อแผนกทางเดินอาหารและตับได้ที่โรงพยาบาลวิมุต ที่นี่เรามีแพทย์ผู้ชำนาญการในการรักษาโรคทางเดินอาหารด้วยการตรวจหาสาเหตุตั้งต้นของโรค และการรักษาในเชิงลึกจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ ร่วมกับเทคโนโลยีทางการแพทย์สมัยใหม่ในการรักษาโรคระบบทางเดินอาหารและตับที่มีความยากและซับซ้อน อีกทั้งยังมีทีมงานภายในทุกศูนย์เฉพาะทาง ที่พร้อมประสานงานกันเพื่อร่วมดูแลผู้ป่วยอย่างครบครันและส่งต่อการรักษาได้อย่างราบรื่น ทำให้สามารถรักษาโรคทางเดินอาหารต่างๆ ที่ซับซ้อนได้อย่างปลอดภัย

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและนัดหมายแพทย์ได้ที่
ศูนย์ระบบทางเดินปัสสาวะ ชั้น 4 โรงพยาบาลวิมุต

เวลาทำการ เวลา 08.00 - 20.00 น. โทร. 0-2079-0040

หรือดาวน์โหลด ViMUT Application เพื่อนัดหมายแพทย์ หรือบริการปรึกษาหมอออนไลน์

ทุกปัญหาสุขภาพ ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางออนไลน์ ที่พร้อมดูแลคุณด้วยความใส่ใจ