การวางแผนครอบครัวถือเป็นเรื่องสำคัญที่คู่รักควรพิจารณาและตัดสินใจร่วมกันอย่างรอบคอบ หนึ่งในปัจจัยสำคัญคือเรื่องของการคุมกำเนิด ซึ่งวิธีที่มีประสิทธิภาพ ปลอดภัย และกำลังได้รับความนิยมวิธีหนึ่งก็คือ “การทำหมันชาย” อย่างไรก็ตาม คุณผู้ชายหลายคนอาจยังมีข้อสงสัยและความกังวลเกี่ยวกับการทำหมันชายอยู่ไม่น้อย ในบทความนี้ได้รวบรวม 7 คำถามที่พบบ่อยที่สุดเกี่ยวกับการทำหมันชาย พร้อมคำตอบที่จะช่วยคลายความกังวล และช่วยให้คุณผู้ชายตัดสินใจได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น

รวมคำถาม-คำตอบเกี่ยวกับการทำหมันชาย…ที่คุณผู้ชายควรรู้

แม้การทำหมันชายจะเป็นวิธีคุมกำเนิดที่มีประสิทธิภาพสูง ปลอดภัย และผลข้างเคียงน้อย แต่คุณผู้ชายหลายคนอาจยังคงมีความกังวลหรือความเข้าใจผิดอยู่ วันนี้คุณหมอจะมาตอบทุกข้อสงสัย เพื่อไขข้อข้องใจและเพิ่มความมั่นใจให้กับคุณผู้ชายทุกๆ คน

1. ทำหมันชายมีกี่แบบ? แตกต่างกันอย่างไร ?

ตอบ การทำหมันชาย (Vasectomy) เป็นการคุมกำเนิดถาวรโดยทำการผูกและตัดหลอดนำอสุจิ เพื่อป้องกันไม่ให้ตัวอสุจิจากอัณฑะเคลื่อนออกมาเมื่อมีการหลั่งน้ำอสุจิ ทำให้ไม่มีตัวอสุจิ จึงทำให้ไม่มีการปฏิสนธิเกิดขึ้น โดยการทำหมันชายในปัจจุบันจะมีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี ได้แก่

1. การผูกและตัดท่ออสุจิแบบเปิดแผลผ่าตัด (Conventional Vasectomy) เป็นวิธีดั้งเดิมที่แพทย์นิยมใช้กันมาอย่างยาวนาน โดยแพทย์จะทำการเปิดแผลเล็กๆ ประมาณ 1-2 เซนติเมตร บริเวณข้างๆ ถุงอัณฑะ เพื่อทำการตัดและผูกท่ออสุจิ จากนั้นจะทำการเย็บปิดผิวหนังที่กรีด
2. การผูกและตัดท่ออสุจิแบบไร้แผลผ่าตัด (Non-Scalpel Vasectomy) เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมในปัจจุบัน โดยแพทย์จะใช้เครื่องมือเฉพาะที่ออกแบบมาสำหรับการทำหมัน เจาะรูเล็กๆ ที่ผิวหนังบริเวณถุงอัณฑะแทนการใช้ใบมีดผ่าตัด ทำให้แผลมีขนาดเล็ก ฟื้นตัวเร็ว และไม่จำเป็นต้องเย็บปิดแผล

2. ทำหมันผู้ชายเจ็บไหม? ใช้เวลานานแค่ไหน ?

ตอบ โดยทั่วไปแล้วขั้นตอนการทำหมันชายจะใช้เวลาสั้นๆ ประมาณ 20 - 30 นาที และไม่เจ็บอย่างที่คิด เพราะแพทย์จะฉีดยาชาเฉพาะที่บริเวณที่จะทำการผ่าตัดก่อน อาจจะรู้สึกเพียงแค่เข็มจิ้มเท่านั้น ระหว่างทำอาจจะรู้สึกตึงๆ ที่บริเวณอัณฑะ แต่หลังจากยาชาหมดฤทธิ์แล้ว อาการปวดมักจะไม่รุนแรง และสามารถบรรเทาได้ด้วยยาแก้ปวด

3. ทำหมันผู้ชายต้องดมยาสลบไหม ?

ตอบ ไม่จำเป็นต้องดมยาสลบ แพทย์จะใช้เพียงยาชาเฉพาะที่บริเวณที่จะทำการผ่าตัดเท่านั้น หลังทำสามารถกลับบ้านได้เลย ไม่ต้องนอนพักฟื้นที่โรงพยาบาล

4. หลังทำหมันผู้ชายต้องดูแลตัวเองยังไง พักฟื้นกี่วัน ?

ตอบ หลังทำหมันชายควรงดออกกำลังกายหนักๆ และควรงดมีเพศสัมพันธ์ ประมาณ 1 - 2 สัปดาห์ หรือจนกว่าแผลจะหายสนิท ทั้งนี้ควรดูแลแผลให้สะอาดเพื่อป้องกันการติดเชื้อ และไม่ควรโดนน้ำประมาณ 3 วัน ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วจะสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ตามปกติภายใน 2 - 3 วัน

5. ทำหมันแล้วจะมีผลข้างเคียงอะไรบ้าง ?

ตอบ ผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้นได้หลังการทำหมันชายมักเกิดขึ้นได้น้อยหรือไม่รุนแรง เช่น อาจมีก้อนบวมบริเวณที่แผลผ่าตัด มีอาการเลือดออกเล็กน้อย หรือมีอาการปวดหน่วงที่อัณฑะ อาการเหล่านี้มักจะไม่รุนแรงและหายได้เองภายใน 1 - 2 สัปดาห์ แต่หากมีอาการผิดปกติ เช่น ปวดมาก มีการบวมขนาดใหญ่ หรือมีหนองไหลจากแผลผ่าตัดติดเชื้อ ผู้ป่วยควรรีบมาพบแพทย์ในทันที

6. หลังทำหมันจะมีอารมณ์ทางเพศหรือไม่ สมรรถภาพทางเพศเสื่อมลงจริงไหม ?

ตอบ การทำหมันชายไม่ได้ส่งผลต่อฮอร์โมนเพศชาย จึงไม่ได้ส่งผลต่อความต้องการทางเพศ สมรรถภาพทางเพศ หรือปริมาณน้ำอสุจิ หลังจากทำหมันแล้ว คุณผู้ชายยังคงสามารถมีเพศสัมพันธ์ได้ตามปกติ เพียงแต่จะไม่สามารถทำให้ฝ่ายหญิงตั้งครรภ์ได้เท่านั้น เพราะในน้ำเชื้อที่หลั่งออกมาจะไม่มีตัวอสุจิอยู่แล้วนั่นเอง

7. ทำหมันแล้วจะมีลูกได้อีกไหม ?

ตอบ การทำหมันชาย เป็นวิธีการคุมกำเนิดแบบถาวรที่มีประสิทธิภาพสูง โอกาสที่จะกลับมามีบุตรได้เองหลังการทำหมันนั้นจึงมีน้อยมาก อย่างไรก็ตาม หากต้องการกลับมามีบุตรอีกครั้ง แพทย์อาจสามารถทำการตัดต่อท่ออสุจิกลับคืนได้ ทั้งนี้ ความสำเร็จของผลลัพธ์ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ระยะเวลาที่ผ่านไปหลังการทำหมัน ดังนั้น หากต้องการแก้ไขการทำหมัน จึงควรปรึกษาแพทย์เพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม

การทำหมันชายเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่ปลอดภัย มีประสิทธิภาพสูง และไม่มีผลกระทบต่อสมรรถภาพทางเพศ หรือฮอร์โมนในร่างกายอย่างที่หลายคนคิด หากคุณผู้ชายท่านใดที่กำลังวางแผนครอบครัวและมองหาวิธีคุมกำเนิดถาวร การทำหมันชายก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ โดยสามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อรับคำแนะนำและข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับขั้นตอนการทำหมันชาย เพื่อสร้างความมั่นใจ และพร้อมสำหรับการตัดสินใจที่ถูกต้อง

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและนัดหมายแพทย์ได้ที่

ศูนย์ระบบทางเดินปัสสาวะ ชั้น 4 โรงพยาบาลวิมุต 

เวลาทำการ 08:00 - 20:00 น. โทร. 0-2079-0040

หรือดาวน์โหลด ViMUT Application เพื่อนัดหมายแพทย์ หรือบริการปรึกษาหมอออนไลน์ 

ทุกปัญหาสุขภาพ ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางออนไลน์ ที่พร้อมดูแลคุณด้วยความใส่ใจ