คนส่วนใหญ่โดยทั่วไปเมื่อเห็นเด็กอ้วนจะมองว่าน่ารัก ดังนั้นพ่อแม่บางท่านจึงอยากให้ลูกอ้วนเพื่อจะได้ดูน่ารัก แต่ในความเป็นจริง เราอาจไม่ทราบว่ามีอันตรายที่แอบซ้อนในความน่ารักของเด็กอ้วน
ทำไมเด็กจึงอ้วน
สาเหตุสำคัญเกิดจากพฤติกรรมของเด็กที่รับประทานอาหารมากเกินไป และขาดการเคลื่อนไหวออกกำลังกาย อีกทั้งยังมีสภาพแวดล้อมที่เกื้อหนุน เช่น การับประทานอาหารจำพวกฟาสต์ฟู้ดอย่างพิซซ่า แฮมเบอร์ซึ่งมีไขมันสูง การดื่มน้ำหวาน น้ำอัดลม และขนมประเภท คุกกี้ เค้กที่จำหน่ายและโฆษณาอย่างแพร่หลาย รวมทั้งพฤติกรรมการนั่งดูโทรทัศน์ เล่นคอมพิวเตอร์ เล่นโทรศัพท์มือถือ ซึ่งทำให้เด็กไม่สนใจกิจกรรมการเล่นกลางแจ้ง
เป็นที่น่าสังเกตว่า ในปัจจุบันเด็กใช้เวลากับการเรียนค่อนข้างมากจึงมีเวลาออกกำลังกายน้อยลง โดยเฉพาะในสถานการณ์โควิด ที่เด็กไม่สามารถทำกิจกรรมกับเพื่อนที่โรงเรียนได้ ต้องเรียนออนไลน์ที่บ้าน ถูกจำกัดสถานที่ อาจทำให้เกิดภาวะเครียด จึงผ่อนคลายด้วยการกินขนมจุบจิบมากขึ้น นอกจากนี้ ปัจจัยด้านพันธุกรรมและสิ่งแวดล้อมในบ้าน ก็เป็นปัจจัยทำให้เด็กอ้วนได้ เช่น พ่อแม่เป็นโรคอ้วน คนในครอบครัวรับประทานอาหารไม่เป็นมื้อ ชอบรับประทานจุบจิบ เป็นต้น
จะรู้ได้อย่างไรว่าลูกเข้าข่ายเป็นเด็กอ้วน
โดยทั่วไปพ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่มักไม่ทราบว่าลูกเริ่มอ้วน แต่จะรู้ได้ว่าอ้วนอย่างชัดเจนเมื่อเห็นรูปร่างของเด็ก ซึ่งพ่อแม่สามารถรู้ว่าลูกเริ่มเข้าข่ายอ้วนได้โดยการชั่งน้ำหนักเปรียบเทียบกับความสูง ตามค่ามาตรฐานเด็กไทย เมื่อใดที่น้ำหนักตัวมากกว่าน้ำหนักที่ควรมีเมื่อพิจารณาจากความสูง ให้ระวังว่าลูกเริ่มอ้วน ผู้ปกครองสามารถตรวจสอบและเฝ้าระวังภาวะอ้วนได้ด้วยตนเองจากน้ำหนักและความสูงของลูกโดยตรวจสอบได้จากเว็บไซต์ https://nutstatcal.kiddiary.in.th
ดังตัวอย่าง
ตัวอย่างที่ 1 ด.ญ แดง สกุลสมมติ อายุ 10 ปี น้ำหนัก 70 กิโลกรัม ส่วนสูง 160 เซนติเมตร
ประเมินภาวะโภชนาการ : เริ่มอ้วน
ตัวอย่างที่ 2 ด.ช โจ สกุลสมมติ อายุ 8 ปี น้ำหนัก 100 กิโลกรัม ส่วนสูง 157 เซนติเมตร
ประเมินภาวะโภชนาการ : อ้วน
ทำไมภาวะอ้วนจึงอันตราย
ภาวะอ้วนส่งผลให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อเด็กทั้งร่างกายและจิตใจ ได้แก่
- ไขมันในเลือดสูง ทั้งคลอเรสเตอรอล (cholesterol) ไตรกลีเซอไรด์ (triglyceride) และไขมันแอลดีแอล (LDL) ซึ่งเป็นไขมันประเภทไม่ดี อาจทำให้เกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจเมื่ออายุมากขึ้น
- ตับอักเสบจากไขมันพอกตับ และกลายเป็นโรคตับแข็งถ้าไม่ลดน้ำหนัก
- ความดันโลหิตสูง
- นอนกรน หยุดหายใจขณะนอนหลับ เนื่องจากไขมันที่สะสมรอบคอทำให้ขวางทางเดินหายใจ การนอนไม่เพียงพอทำให้เด็กปวดศีรษะหรือง่วงนอนเวลากลางวัน และส่งผลต่อผลการเรียนได้
- ภาวะเบาหวาน เนื่องระดับอินซูลินในเลือดสูง เกิดภาวะร่างกายดื้อต่ออินซูลิน (insulin resistance) ซึ่งเด็กอ้วนที่มีภาวะนี้จะมีผิวหนังเป็นผื่นสีน้ำตาลดำ นูนหนา ไม่คัน ที่บริเวณลำคอ รักแร้ ข้อพับ และขาหนีบทั้ง 2 ข้าง
- มีผลต่อกระดูกขา และ ข้อเข่า เพราะต้องรับน้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น ทำให้ปวดเข่า ขาโก่ง หัวกระดูกสะโพกเลื่อน ขาฉิ่ง และเกิดกระดูกหักได้ง่ายเมื่อหกล้ม
- โรคกรดไหลย้อน
- เป็นหนุ่มสาวเร็วกว่าเด็กวัยเดียวกัน
- เหนื่อยง่ายเวลาทำกิจกรรมออกกำลังกาย
- มีผลต่อจิตใจเพราะถูกเพื่อนล้อเลียน ขาดความมั่นใจในตัวเอง จึงไม่ค่อยอยากเข้าสังคม และอาจทำให้เกิดภาวะซึมเศร้าตามมาได้
- เสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็งในวัยผู้ใหญ่ เช่น มะเร็งของเยื่อบุโพรงมดลูก เต้านม ลำไส้ใหญ่ เป็นต้น
จะรักษาเด็กอ้วนอย่างไร
ในการรักษาจะไม่ใช้ยาลดน้ำหนัก แต่เน้นการลดน้ำหนักโดยปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ได้แก่
- การควบคุมอาหาร หลีกเลี่ยงเนื้อสัตว์ติดมัน งดของทอดของมัน เน้นอาหารจำพวกต้ม นึง ตุ๋น อบ แทนการทอด ดื่มนมรสจืด ไขมันต่ำ งดของหวาน ขนมขบเคี้ยว จุบจิบ แนะนำรับประทานผัก ผลไม้ที่ไม่มีรสหวาน เช่น ชมพู่ ฝรั่ง เป็นต้น
- เพิ่มกิจกรรมที่ต้องออกแรง เช่น การช่วยทำงานบ้าน การเดินขึ้นบันไดแทนการใช้ลิฟต์หรือบันไดเลื่อน เป็นต้น และควรออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 30-60 นาที
- ปรับพฤติกรรม ลดเวลานั่งดูทีวี เล่นเกม หรือ เล่นโทรศัพท์มือถือ
- ปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของคนในครอบครัว เช่น ให้ชวนกันออกกำลังกายร่วมกันมากขึ้น เปลี่ยนลักษณะของอาหารที่รับประทานในบ้าน ผู้ปกครองต้องไม่รับประทานอาหารจุบจิบ พยายามลดการรับประทานอาหารนอกบ้าน หรือ อาหารประเภทฟาสต์ฟู้ด
กระบวนการลดน้ำหนักในเด็กต้องใช้เวลาในการรักษาค่อนข้างนาน ดังนั้นต้องอาศัยความตั้งใจและความพยายามของทั้งเด็กและผู้ปกครองอย่างมาก นอกจากนี้อาจต้องการการรักษาเป็นกรณีเฉพาะในเด็กอ้วนที่มีภาวะแทรกซ้อน
สุดท้ายนี้หวังว่า บทความนี้จะช่วยให้ผู้ปกครองเปลี่ยนมุมมองไม่อยากให้ลูกอ้วนอีกต่อไป เพราะเห็นภัยอันตรายที่แอบซ้อนอยู่
ทุกปัญหาสุขภาพ ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางออนไลน์ ที่พร้อมดูแลคุณด้วยความใส่ใจ
แนะนำแพทย์ที่เกี่ยวข้อง
เรื่องสุขภาพน่ารู้ที่เกี่ยวข้อง
ลูกนอนกรน…อาการที่ไม่ควรมองข้าม เสี่ยงหยุดหายใจขณะหลับ
เสียงนอนกรน เกิดจากช่องทางเดินหายใจส่วนต้นของเราตีบแคบขณะนอนหลับ ทำให้ลมหายใจไหลผ่านได้อย่างลำบาก โดยสาเหตุการนอนกรนในเด็กส่วนใหญ่ เกิดจากขนาดต่อมทอนซิลและ/หรือต่อมอะดีนอยด์ที่โต จนเบียดบังทางเดินหายใจส่วนต้นของเด็ก ซึ่งพบบ่อยในเด็กก่อนวัยเรียนจนถึงอายุประมาณ 8 ปี
ทวงคืนคุณภาพชีวิตเจ้าตัวเล็ก How to ดูแลสุขภาพเด็กยุค New Normal
เพราะ COVID-19 ที่ระบาดมานานนับปี ลูกๆ ของเราสูญเสียโอกาสในการใช้ชีวิตไปมาก ทั้งจากการไม่ได้ไปเรียนหนังสือแบบครบวงจรที่โรงเรียน ได้เจอเด็กๆ รุ่นเดียวกันน้อย ขาดการเรียนรู้จากโลกภายนอกแทบจะสิ้นเชิง ไม่นับรวมการต้องมาคอยใส่หน้ากากอนามัยและระมัดระวังอะไรที่มากเกินวัย
ลูกของคุณเสี่ยงมีพฤติกรรมคล้าย-ออทิสติกหรือไม่?
พฤติกรรมคล้ายออทิสติกหรือในสื่อสังคมมักเรียกว่า “ออทิสติกเทียม” เป็นภาวะที่เด็กขาด “การกระตุ้น” ในการสื่อสารสองทางโรคออทิสติก เกิดจากความผิดปกติของสมองเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ในขณะที่อาการออทิสติกเทียมจะเกิดจาก "ขาดการกระตุ้น" เป็นหลัก
เตรียมลูกรักให้ Ready เมื่อเปิดเทอมนี้ Covid มาเยือน
ช่วงที่ลูกต้องเรียนออนไลน์คุณพ่อแม่ก็วุ่นวายไปอีกแบบ แต่พอลูกน้อยไปโรงเรียนในสภาวะแบบนี้ความวุ่นวายก็กลับกลายเป็นความกังวล
ลูกนอนกรน…อาการที่ไม่ควรมองข้าม เสี่ยงหยุดหายใจขณะหลับ
เสียงนอนกรน เกิดจากช่องทางเดินหายใจส่วนต้นของเราตีบแคบขณะนอนหลับ ทำให้ลมหายใจไหลผ่านได้อย่างลำบาก โดยสาเหตุการนอนกรนในเด็กส่วนใหญ่ เกิดจากขนาดต่อมทอนซิลและ/หรือต่อมอะดีนอยด์ที่โต จนเบียดบังทางเดินหายใจส่วนต้นของเด็ก ซึ่งพบบ่อยในเด็กก่อนวัยเรียนจนถึงอายุประมาณ 8 ปี
ทวงคืนคุณภาพชีวิตเจ้าตัวเล็ก How to ดูแลสุขภาพเด็กยุค New Normal
เพราะ COVID-19 ที่ระบาดมานานนับปี ลูกๆ ของเราสูญเสียโอกาสในการใช้ชีวิตไปมาก ทั้งจากการไม่ได้ไปเรียนหนังสือแบบครบวงจรที่โรงเรียน ได้เจอเด็กๆ รุ่นเดียวกันน้อย ขาดการเรียนรู้จากโลกภายนอกแทบจะสิ้นเชิง ไม่นับรวมการต้องมาคอยใส่หน้ากากอนามัยและระมัดระวังอะไรที่มากเกินวัย
ลูกของคุณเสี่ยงมีพฤติกรรมคล้าย-ออทิสติกหรือไม่?
พฤติกรรมคล้ายออทิสติกหรือในสื่อสังคมมักเรียกว่า “ออทิสติกเทียม” เป็นภาวะที่เด็กขาด “การกระตุ้น” ในการสื่อสารสองทางโรคออทิสติก เกิดจากความผิดปกติของสมองเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ในขณะที่อาการออทิสติกเทียมจะเกิดจาก "ขาดการกระตุ้น" เป็นหลัก
เตรียมลูกรักให้ Ready เมื่อเปิดเทอมนี้ Covid มาเยือน
ช่วงที่ลูกต้องเรียนออนไลน์คุณพ่อแม่ก็วุ่นวายไปอีกแบบ แต่พอลูกน้อยไปโรงเรียนในสภาวะแบบนี้ความวุ่นวายก็กลับกลายเป็นความกังวล
ลูกของคุณเสี่ยงมีพฤติกรรมคล้าย-ออทิสติกหรือไม่?
พฤติกรรมคล้ายออทิสติกหรือในสื่อสังคมมักเรียกว่า “ออทิสติกเทียม” เป็นภาวะที่เด็กขาด “การกระตุ้น” ในการสื่อสารสองทางโรคออทิสติก เกิดจากความผิดปกติของสมองเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ในขณะที่อาการออทิสติกเทียมจะเกิดจาก "ขาดการกระตุ้น" เป็นหลัก
เตรียมลูกรักให้ Ready เมื่อเปิดเทอมนี้ Covid มาเยือน
ช่วงที่ลูกต้องเรียนออนไลน์คุณพ่อแม่ก็วุ่นวายไปอีกแบบ แต่พอลูกน้อยไปโรงเรียนในสภาวะแบบนี้ความวุ่นวายก็กลับกลายเป็นความกังวล
ลูกนอนกรน…อาการที่ไม่ควรมองข้าม เสี่ยงหยุดหายใจขณะหลับ
เสียงนอนกรน เกิดจากช่องทางเดินหายใจส่วนต้นของเราตีบแคบขณะนอนหลับ ทำให้ลมหายใจไหลผ่านได้อย่างลำบาก โดยสาเหตุการนอนกรนในเด็กส่วนใหญ่ เกิดจากขนาดต่อมทอนซิลและ/หรือต่อมอะดีนอยด์ที่โต จนเบียดบังทางเดินหายใจส่วนต้นของเด็ก ซึ่งพบบ่อยในเด็กก่อนวัยเรียนจนถึงอายุประมาณ 8 ปี
ทวงคืนคุณภาพชีวิตเจ้าตัวเล็ก How to ดูแลสุขภาพเด็กยุค New Normal
เพราะ COVID-19 ที่ระบาดมานานนับปี ลูกๆ ของเราสูญเสียโอกาสในการใช้ชีวิตไปมาก ทั้งจากการไม่ได้ไปเรียนหนังสือแบบครบวงจรที่โรงเรียน ได้เจอเด็กๆ รุ่นเดียวกันน้อย ขาดการเรียนรู้จากโลกภายนอกแทบจะสิ้นเชิง ไม่นับรวมการต้องมาคอยใส่หน้ากากอนามัยและระมัดระวังอะไรที่มากเกินวัย