8 วัคซีนเด็กขั้นพื้นฐาน แรกเกิด - 1 ปี เสริมภูมิคุ้มกันให้ลูกรักจากโรคร้าย
วางแผนวัคซีนพื้นฐานเพื่อลูกรัก เสริมสร้างภูมิคุ้มกันจากโรคร้าย
เมื่อลูกรักมีอาการเจ็บป่วยหรือไม่สบายตัวทีไร คุณพ่อคุณแม่และสมาชิกทุกคนในบ้านต่างพากันกังวลใจทั้งครอบครัว เพราะเด็กเล็กภูมิต้านทานยังไม่แข็งแรง เจ็บป่วยได้ง่าย และอยู่ในช่วงวัยที่ยังไม่สามารถบอกความรู้สึกของตัวเองได้อย่างชัดเจน คุณพ่อคุณแม่จึงต้องสร้างความแข็งแรงให้ลูกตั้งแต่วัยแบเบาะด้วยวัคซีนเด็ก ที่มีทั้งวัคซีนหลักและวัคซีนเสริม ซึ่งเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันต่อโรคเป้าหมาย พร้อมกับลดโอกาสในการก่อโรคไม่ให้ทุกการเจ็บป่วยมาเป็นอุปสรรค เพื่อลูกรักเติบโตสดใสและมีพัฒนาการสมวัยแข็งแรง
วัคซีนในเด็กเล็กสำคัญอย่างไร?
ในเด็กเล็กที่ร่างกายยังไม่แข็งแรงพอที่จะต่อสู้กับเชื้อโรค การฉีดวัคซีน จึงเป็นการสร้างภูมิต้านทาน ให้ตอบสนองทันท่วงทีต่อเชื้อโรคที่เข้าสู่ร่างกาย ก่อนจะกลายเป็นอาการเจ็บป่วยรุนแรง ดังนั้นเด็กทุกคนจึงจำเป็นต้องได้รับวัคซีนที่จำเป็นตั้งแต่แรกเกิด โดยเฉพาะวัคซีนพื้นฐาน
วัคซีนเด็กพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับลูกรัก ที่เด็กทุกคนควรได้รับ
เพื่อเป็นการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันแต่ละช่วงวัย ตามที่กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดนโยบายและลำดับการฉีดวัคซีนไว้ ต่อจากนี้คือวัคซีนเด็กพื้นฐานที่จำเป็นสำหรับลูกรักที่คุณพ่อคุณแม่ต้องให้ความสำคัญ และพาสมาชิกตัวน้อยในครอบครัวเข้ารับวัคซีนอย่างครบถ้วนตามแต่ละช่วงวัย
- วัคซีนวัณโรค (BCG ) : วัคซีนชนิดฉีดเพียง 1 เข็ม เมื่อครั้งแรกคลอดหรือก่อนกลับบ้าน หลังรับวัคซีนแล้ว 3 - 4 สัปดาห์ จะมีตุ่มแดงตรงจุดที่ได้รับวัคซีน อาจมีหนองหรือไม่มีก็ได้ เพียงใช้สำลีชุบน้ำต้มสุกทำความสะอาดให้แผลแห้งอยู่เสมอก็จะหายไปเองใน 3 - 6 สัปดาห์
- วัคซีนตับอักเสบบี (HBV) : วัคซีนชนิดฉีด 3 เข็ม สามารถฉีดได้หลายวิธี เช่น เริ่มฉีดเข็มที่ 1 เมื่อแรกเกิด เข็มที่ 2 เมื่อมีอายุครบ 1 เดือน และเข็มที่ 3 เมื่อเด็กครบ 6 เดือน สามารถป้องกันโรคที่เกิดจากไวรัสตับอีกเสบบี ซึ่งเป็นสาเหตุสำคัญของโรคมะเร็งตับ และตับแข็งในผู้ใหญ่
- วัคซีนคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก (TdaP) : วัคซีนชนิดฉีดรวมโรค 3 เข็ม ฉีดเมื่ออายุ 2 เดือน 4 เดือน และ 6 เดือน ตามลำดับ หลังจากนั้นควรฉีดเพื่อกระตุ้นการทำงานของวัคซีนอีก 3 ครั้ง ในช่วงอายุ 1 ปี 6 เดือน และอายุ 4-6 ปี อายุ 10-12 ปี หลังจากนั้นควรฉีดกระตุ้นทุก 10 ปี
- วัคซีนโรคฮิป (Hib) : โรคฮิป เกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ซึ่งส่วนมากทำให้เกิดโรคปอดอักเสบ หรือเยื่อหุ้มสมองอักเสบ ป้องกันด้วยวัคซีนชนิดฉีด 3 เข็ม เมื่อมีอายุ 2 เดือน 4 เดือน และ 6 เดือน ตามลำดับและสามารถฉีดเข็มกระตุ้นอีกครั้งในช่วงอายุ 1 ปี 6 เดือน
- วัคซีนโรต้า : ป้องกันโรคท้องเสียจากไวรัสโรต้า ลดความรุนแรงของอาการอาเจียนและท้องร่วงที่พบบ่อยในเด็กได้ด้วยวัคซีนชนิดกิน แบบพื้นฐานคือ Monovalent (Human) ให้กิน 2 ครั้ง เมื่ออายุ 2 และ 4 เดือน หากเป็นวัคซีนเสริมคือ Pentavalent (Bovine- Human) กิน 3 ครั้ง เมื่ออายุ 2 เดือน 4 เดือน และ 6 เดือน
- วัคซีนป้องกันหัด หัดเยอรมัน คางทูม (MMR) : 3 โรคที่ติดต่อกันได้ง่ายและรวดเร็วผ่านละอองจากการหายใจ ป้องกันได้ด้วยวัคซีนชนิดฉีด 2 เข็ม เริ่มฉีดเข็มที่ 1 เมื่ออายุ 9-12 เดือน และฉีดครั้งที่ 2 เมื่ออายุ 18-24 เดือน
- วัคซีนโปลิโอ : แบ่งออกเป็น 2 ชนิด ได้แก่ ชนิดกิน(OPV) 5 ครั้ง เมื่ออายุ 2, 4, 6 เดือน, 1 ขวบครึ่ง และตอนอายุ 4 เดือน ต้องได้รับวัคซีนโปลิโอชนิดฉีด(IPV)ร่วมด้วยอีก 1 เข็มเพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน ในขณะที่หากเลือกใช้แบบฉีดเลยตั้งแต่แรกเกิด วัคซีนโปลิโอชนิดฉีดจะถูกรวมเข็มไปกับวัคซีน คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก อยู่แล้ว
- วัคซีนป้องกันไข้สมองอักเสบเจอี (LAJE1) : มีสาเหตุมาจากการถูกพาหะนำโรคอย่างยุงรำคาญกัด และยังไม่มีวิธีรักษาโดยตรง เด็กไทยทุกคนจึงต้องได้รับวัคซีนชนิดฉีด 2 เข็ม โดยฉีดเข็มแรกมื่ออายุ 1 ปี และเข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 3 - 12 เดือน ตามแต่ชนิดของวัคซีน
วัคซีนทางเลือกเพิ่มภูมิต้านทานโรคอื่นๆ ให้ลูกรัก
เพราะเชื้อไวรัสมีความหลากหลาย ยังมีวัคซีนป้องกันโรคยอดฮิตอีกมายมายสำหรับเด็กเล็กที่ไม่อยู่ในรายการวัคซีนเด็กพื้นฐาน แต่มีบทบาทสำคัญในการช่วยป้องกันโรคอย่างครอบคลุม แถมวัคซีนหลายชนิดยังรวมภูมิต้านทานโรคไว้ได้ในเข็มเดียวแทนการแยกฉีดหลายครั้ง โดยมีรายการวัคซีนเสริมสำหรับลูกน้อย ดังนี้
- วัคซีนป้องกันโรคมือ เท้า ปาก จากไวรัส EV71 : โรคยอดฮิตในวัยเด็ก ติดต่อได้โดยการสัมผัส และระบาดหนักในฤดูฝน ทำให้มีอาการไข้สูง เป็นแผลในปาก มีตุ่มน้ำใสตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า และลำตัว ป้องกันได้ด้วยวัคซีนชนิดฉีด 2 เข็ม โดยเว้นระยะห่างจากเข็มแรก 1 เดือน เหมาะสำหรับเด็กอายุ 6 เดือน – 5 ปี
- วัคซีนตับอักเสบเอ : เชื้อไวรัสตับอัดเสบสามารถติดต่อผ่านสารคัดหลั่งของผู้มีเชื้อ และสามารถติดต่อจากแม่สู่ลูกได้ เสริมภูมิให้ลูกน้อยด้วยวัคซีนชนิดฉีด 2 เข็ม เริ่มฉีดช่วงอายุ 1 ปีขึ้นไป และเข็มที่ 2 ห่างกัน 6 - 12 เดือน
- วัคซีนป้องกันปอดอักเสบ (IPD) : ลดความเสี่ยงในการเกิดปอดอัดเสบชนิดรุนแรง เยื่อหุ้มสมองกักเสบ และติดเชื่อในกระแสเลือด เนื่องจากเชื้อนิวโมคอคัส ด้วยวัคซีนชนิดฉีด 3 เข็ม โดยเริ่มฉีดเข็มที่ 1 เมื่ออายุ 2 เดือน เข็มที่ 2 อายุ 4 เดือน และเข็มที่ 3 อายุ 6 เดือน ในปัจจุบันแนะนำเข็มกระตุ้น เข็มที่ 4 ที่อายุ 15 เดือน
- วัคซีนไข้หวัดใหญ่ : วัคซีนชนิดฉีดจำนวน 1 เข็ม ในทุกช่วงวัย (หากอายุน้อยกว่า 9 ปี จะฉีด 2 เข็ม ห่างกัน 1 เดือน ในปีแรก หลังจากนั้นปีละ 1 เข็มตามปกติ) โดยเฉพาะเด็กเล็กและกลุ่มเสี่ยงสูง ควรฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ซ้ำเป็นประจำทุกปี เพื่อให้ครอบคลุมสายพันธุ์ที่คาดว่าจะมีการระบาด และลดอาการรุนแรงเมื่อเจ็บป่วย
- วัคซีนโรคสุกใส : ในกลุ่มคนทั่วไปอาจมีอาการไข้เล็กน้อยร่วมกับมีตุ่มใสตามร่างกาย แต่อาการของโรคอาจรุนแรงได้มากกว่าในเด็กเล็กที่อายุต่ำกว่า 1 ปีและผู้ที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ โดยปกติเด็กควรได้รับวัคซีนโรคสุกใสจำนวน 2 เข็ม เริ่มเมื่ออายุ 12 - 15 เดือน และเข็มที่ 2 โดยเว้นระยะห่างจากเข็มที่ 1 อย่างน้อย 6 เดือน
- วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (HPV) : ช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกได้ เริ่มฉีดเข็มแรกได้ตั้งแต่อายุ 9 ปีขึ้นไป โดย ช่วงอายุ 9 -15 ปี ฉีดวัคซีนเพียง 2 ครั้งห่างกัน 6 - 12 เดือน หากอายุเกิน 15 ปี ฉีด 3 เข็ม โดย เข็มที่ 2 ห่างจากเข็มแรก 1 - 2 เดือน และเข็มที่ 3 ฉีดหลังจากเข็มแรก 6 เดือน สามารถฉีดได้ในเด็กผู้ชาย เพื่อป้องกันมะเร็งทวารหนัก และ มะเร็งกล่องเสียงบางชนิดได้
โรงพยาบาลวิมุตพร้อมดูแลสมาชิกตัวน้อยของทุกครอบครัวด้วยแพ็กเกจวัคซีนเด็ก ที่ครอบคลุมทุกช่วงอายุสำหรับลูกน้อย
- วัคซีนพื้นฐานตามวัยสำหรับเด็ก แผน A สำหรับอายุ 1-6 เดือน ราคา 5,300 บาท
- วัคซีนพื้นฐานตามวัยสำหรับเด็ก แผน B สำหรับอายุ 1-2.5 ปี ราคา 4,000 บาท
- วัคซีนพื้นฐานตามวัยสำหรับเด็ก แผน C สำหรับอายุ 1 เดือน-1 ปี ราคา 9,500 บาท
- วัคซีนพื้นฐานตามวัยสำหรับเด็ก แผน D สำหรับอายุ 1.5 ปี-2.5 ปี ราคา 2,800 บาท
- วัคซีนเสริม ป้องกันโรคมือ เท้า ปาก (จากเชื้อไวรัส EV71) 2 เข็ม สำหรับอายุ 6 เดือน- 5 ปี ราคา 5,990 บาท
- วัคซีนเสริมป้องกันไวรัสตับอักเสบเอ 2 เข็ม สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 1 ปี ขึ้นไป ราคา 2,400 บาท
- วัคซีนเสริมป้องกันปอดอักเสบ (IPD) 13 สายพันธุ์ 3 เข็ม สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 2 เดือน ขึ้นไป ราคา 9,000 บาท
- วัคซีนเสริมโรตา 3 ครั้ง สำหรับเด็กอายุตั้งแต่ 2 เดือน ขึ้นไป ราคา 3,000 บาท
- วัคซีนป้องกันโรคอีสุกอีใส สำหรับเด็กอายุ 1 ปี ขึ้นไป 2 เข็ม ราคา 2,900 บาท
- วัคซีนไข้หวัดใหญ่ 4 สายพันธุ์ สำหรับเด็กอายุ 6 เดือนขึ้นไป ราคา 850 บาท
- วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (Gardasil) 4 สายพันธุ์ สำหรับเด็กตั้งแต่อายุ 9-15 ปี 2 เข็ม ราคา 6,700 บาท และวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก (Gardasil) 9 สายพันธุ์ สำหรับเด็กตั้งแต่อายุ 9-15 ปี 2 เข็ม ราคา 14,700 บาท
เรื่องน่ารู้วันฉีดวัคซีนเด็ก หากมีไข้สูง หรือมีอาการเจ็บป่วยเฉียบพลันควรเลื่อนการรับวัคซีนออกไปก่อน พักให้หายดีหลังจากการป่วยประมาณ 1 สัปดาห์ จึงพาเข้ารับวัคซีน เว้นแต่มีอาการหวัดหรือท้องเสียเล็กน้อย โดยไม่มีไข้ร่วมด้วยยังสามารถเข้ารับวัคซีนได้เลย หากเคยมีประวัติการแพ้ยาแพ้อาหารชนิดใด จำเป็นต้องแจ้งให้แพทย์ทราบทุกครั้ง และเมื่อได้รับวัคซีนแล้วควรสังเกตอาการแพ้ยาเป็นเวลา 30 นาที ก่อนกลับบ้าน ข้อปฏิบัติหลังการรับวัคซีนเด็ก อาจมีอาการ ปวด บวม แดง บริเวณที่ฉีดวัคซีนให้ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นประคบ หรือหากลูกน้อยมีไข้ ตัวร้อน หลังการรับวัคซีนสามารถให้ยาลดไข้พาราเซตามอล ร่วมกับการเช็ดตัวลูกด้วยน้ำอุณภูมิปกติ เน้นที่บริเวณซอกคอและข้อพับต่างๆ ในเด็กเล็กที่ยังไม่สามารถบอกความต้องการของตนเองได้อาจร้องกวน งอแง ซึ่งเป็นอาการปกติเมื่อรู้สึกไม่สบายตัว และจะหายเองใน 2-3 วัน |
คุณพ่อคุณแม่อย่าลืมพกสมุดสุขภาพประจำตัวลูกน้อยไปด้วยทุกครั้งที่เข้ารับวัคซีน เพื่อให้กุมารแพทย์ใช้เป็นข้อมูลในการประเมินภูมิคุ้มกันโรค และความต่อเนื่องของวัคซีนเด็กในแต่ละชนิด เพราะมากกว่าอ้อมกอดของพ่อแม่คือวัคซีนซึ่งเป็นเกราะปกป้องลูกอีกชั้น อย่าถอดใจที่เห็นลูกร้องไห้เมื่อต้องไปพบแพทย์ เพราะการเข้ารับวัคซีนตามช่วงวัยอย่างเคร่งครัดเป็นการสร้างเสริมสุขภาพที่ดีระยะยาว เพื่อให้ลูกน้อยมีภูมิต้านทานที่แข็งแรงพร้อมเรียนรู้โลกใบใหญ่ได้อย่างมีคุณภาพ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์กุมารเวช
ให้บริการ 24 ชั่วโมง ชั้น 3 โรงพยาบาลวิมุต
หรือดาวน์โหลด ViMUT Application เพื่อนัดหมายแพทย์ หรือบริการปรึกษาหมอออนไลน์ได้
เรียบเรียงโดย นพ. ฐากูร วิริยะชัย กุมารแพทย์ผู้ชำนาญการโรคติดเชื้อในเด็ก
ทุกปัญหาสุขภาพ ปรึกษาแพทย์เฉพาะทางออนไลน์ ที่พร้อมดูแลคุณด้วยความใส่ใจ
แนะนำแพทย์ที่เกี่ยวข้อง
เรื่องสุขภาพน่ารู้ที่เกี่ยวข้อง

เด็กนอนกรน... อาจไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อันตรายที่ต้องรีบเช็กด่วน
ฝันร้ายของลูกน้อย... อาจมาจากเสียงเด็กนอนกรน! ที่อาจเสี่ยงหยุดหายใจขณะหลับ ชวนไขข้อข้องใจเรื่อง "นอนกรนในเด็ก" ที่พ่อแม่ควรรู้! เกิดจากอะไร กำลังบอกอะไรและอันตรายอย่างไร

ส่องสุขภาพเด็กอ้วนที่น่ารัก กับความอันตรายที่แอบแฝง
ในเด็กอ้วนที่ดูน่ารัก อาจกำลังเป็นเด็กที่เสี่ยงกับโรคอ้วนในเด็กได้ ชวนคุณพ่อคุณแม่มาดูอันตรายแฝงที่แอบซ่อนอยู่ในเด็กอ้วน พร้อมแนวทางการรักษากันได้ที่นี่

ลูกของคุณเสี่ยงมีพฤติกรรมคล้าย-ออทิสติกหรือไม่?
พฤติกรรมคล้ายออทิสติกหรือในสื่อสังคมมักเรียกว่า “ออทิสติกเทียม” เป็นภาวะที่เด็กขาด “การกระตุ้น” ในการสื่อสารสองทางโรคออทิสติก เกิดจากความผิดปกติของสมองเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ในขณะที่อาการออทิสติกเทียมจะเกิดจาก "ขาดการกระตุ้น" เป็นหลัก

เตรียมลูกรักให้ Ready เมื่อเปิดเทอมนี้ Covid มาเยือน
ช่วงที่ลูกต้องเรียนออนไลน์คุณพ่อแม่ก็วุ่นวายไปอีกแบบ แต่พอลูกน้อยไปโรงเรียนในสภาวะแบบนี้ความวุ่นวายก็กลับกลายเป็นความกังวล

เด็กนอนกรน... อาจไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อันตรายที่ต้องรีบเช็กด่วน
ฝันร้ายของลูกน้อย... อาจมาจากเสียงเด็กนอนกรน! ที่อาจเสี่ยงหยุดหายใจขณะหลับ ชวนไขข้อข้องใจเรื่อง "นอนกรนในเด็ก" ที่พ่อแม่ควรรู้! เกิดจากอะไร กำลังบอกอะไรและอันตรายอย่างไร

ส่องสุขภาพเด็กอ้วนที่น่ารัก กับความอันตรายที่แอบแฝง
ในเด็กอ้วนที่ดูน่ารัก อาจกำลังเป็นเด็กที่เสี่ยงกับโรคอ้วนในเด็กได้ ชวนคุณพ่อคุณแม่มาดูอันตรายแฝงที่แอบซ่อนอยู่ในเด็กอ้วน พร้อมแนวทางการรักษากันได้ที่นี่

ลูกของคุณเสี่ยงมีพฤติกรรมคล้าย-ออทิสติกหรือไม่?
พฤติกรรมคล้ายออทิสติกหรือในสื่อสังคมมักเรียกว่า “ออทิสติกเทียม” เป็นภาวะที่เด็กขาด “การกระตุ้น” ในการสื่อสารสองทางโรคออทิสติก เกิดจากความผิดปกติของสมองเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ในขณะที่อาการออทิสติกเทียมจะเกิดจาก "ขาดการกระตุ้น" เป็นหลัก

เตรียมลูกรักให้ Ready เมื่อเปิดเทอมนี้ Covid มาเยือน
ช่วงที่ลูกต้องเรียนออนไลน์คุณพ่อแม่ก็วุ่นวายไปอีกแบบ แต่พอลูกน้อยไปโรงเรียนในสภาวะแบบนี้ความวุ่นวายก็กลับกลายเป็นความกังวล

ลูกของคุณเสี่ยงมีพฤติกรรมคล้าย-ออทิสติกหรือไม่?
พฤติกรรมคล้ายออทิสติกหรือในสื่อสังคมมักเรียกว่า “ออทิสติกเทียม” เป็นภาวะที่เด็กขาด “การกระตุ้น” ในการสื่อสารสองทางโรคออทิสติก เกิดจากความผิดปกติของสมองเด็กตั้งแต่อยู่ในครรภ์ ในขณะที่อาการออทิสติกเทียมจะเกิดจาก "ขาดการกระตุ้น" เป็นหลัก

เตรียมลูกรักให้ Ready เมื่อเปิดเทอมนี้ Covid มาเยือน
ช่วงที่ลูกต้องเรียนออนไลน์คุณพ่อแม่ก็วุ่นวายไปอีกแบบ แต่พอลูกน้อยไปโรงเรียนในสภาวะแบบนี้ความวุ่นวายก็กลับกลายเป็นความกังวล

เด็กนอนกรน... อาจไม่ใช่เรื่องเล็กๆ อันตรายที่ต้องรีบเช็กด่วน
ฝันร้ายของลูกน้อย... อาจมาจากเสียงเด็กนอนกรน! ที่อาจเสี่ยงหยุดหายใจขณะหลับ ชวนไขข้อข้องใจเรื่อง "นอนกรนในเด็ก" ที่พ่อแม่ควรรู้! เกิดจากอะไร กำลังบอกอะไรและอันตรายอย่างไร

ส่องสุขภาพเด็กอ้วนที่น่ารัก กับความอันตรายที่แอบแฝง
ในเด็กอ้วนที่ดูน่ารัก อาจกำลังเป็นเด็กที่เสี่ยงกับโรคอ้วนในเด็กได้ ชวนคุณพ่อคุณแม่มาดูอันตรายแฝงที่แอบซ่อนอยู่ในเด็กอ้วน พร้อมแนวทางการรักษากันได้ที่นี่