ผ่าตัดส่องกล้อง (MIS) ตรงจุด แผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว

อย่างที่เราทราบกันดีว่าในปัจจุบันเทคโนโลยีทางการแพทย์มีความก้าวหน้าไปมาก ข้อจำกัดในการรักษาโรคถูกลดลง และมีการพัฒนาเทคนิคการรักษาต่างๆ อย่างก้าวกระโดด รวมถึงวิธีการผ่าตัดที่ช่วยลดความเสี่ยงต่างๆ และลดเวลาในการพักฟื้นลง เพื่อให้ผู้ป่วยสามารถกลับไปใช้ชีวิตได้ปกติอย่างรวดเร็ว วันนี้เรามาทำความรู้จักการผ่าตัดส่องกล้องให้มากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นทางเลือกในการรักษาในอนาคต

การผ่าตัดส่องกล้อง (MIS) คืออะไร?

เทคโนโลยีทางการแพทย์ที่เข้ามาช่วยเพิ่มความแม่นยำในการผ่าตัดรักษาโรค เป็นวิธีการผ่าตัดที่ทันสมัยและใช้เทคนิคที่มีประสิทธิภาพสูง 

• เน้นการลดขนาดแผลผ่าตัดให้เล็กลง 
• สามารถผ่าตัดในบริเวณที่เข้าถึงได้ยากและมองเห็นได้ดีกว่า  
• ความปลอดภัยของการผ่าตัดต้องเท่ากับ หรือมากกว่าการผ่าตัดแบบเปิด

เป็นการเปิดแผลที่ผิวหนังขนาดเล็ก โดยใช้กล้องและเครื่องมือผ่าตัดเข้าไปทำการผ่าตัดภายในช่องท้อง แทนการผ่าตัดเป็นแผลใหญ่ เพื่อลดความเจ็บปวด ลดขนาดแผล และให้ผู้ป่วยฟื้นตัวจากการผ่าตัดเร็วขึ้น 

ขั้นตอนการผ่าตัดแบบส่องกล้อง (MIS) เป็นอย่างไร?

1. ศัลยแพทย์ทำการเจาะรูบริเวณช่องท้อง หรือผิวหนังใกล้บริเวณที่ต้องการผ่าตัด ขนาดเล็กประมาณ 0.5-1 ซม.อาจทำการเจาะรูผิวหนังประมาณ 1-5 แผล ขึ้นอยู่กับชนิดของการผ่าตัด 
2. สอดเครื่องมือผ่าตัดที่มีลักษณะเป็นกล้องซึ่งสามารถมองเห็นภาพอวัยวะต่างๆ ได้อย่างชัดเจน สามารถนำส่งภาพมาฉายที่จอมอนิเตอร์ได้ ศัลยแพทย์สามารถทำการผ่าตัดผ่านการมองกล้องที่มีความละเอียดสูง ทำให้การผ่าตัดมีความแม่นยำ

การผ่าตัดแบบส่องกล้อง (MIS) ดีกว่าผ่าตัดแบบเดิมอย่างไร?

การผ่าตัดแบบส่องกล้องนอกจากจะเข้ามาลดข้อจำกัดต่างๆ ในการผ่าตัดเปิดหน้าท้องแล้ว ยังได้ผลลัพธ์จากการผ่าตัดที่น่าพอใจและมีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย 

1. แผลผ่าตัดมีขนาดเล็กเพียง 1-2 ซม.
2. ลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อและอวัยวะภายใน ทำให้มีอาการปวดหลังผ่าตัดน้อยลง
3. ลดโอกาสเกิดการติดเชื้อ หรือภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด 
4. ใช้เวลาในการพักฟื้นน้อยลง ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น 
5. ลดโอกาสเกิดพังผืดจากการผ่าตัด 
6. ศัลยแพทย์สามารถทำการผ่าตัดผ่านการมองกล้องที่มีความละเอียดสูง สามารถมองเห็นเนื้อเยื่อ และอวัยวะต่างๆ ได้ชัดเจน ทำให้การผ่าตัดมีความแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

การผ่าตัดส่องกล้อง (MIS) เหมาะกับการรักษาโรคใดบ้าง

การผ่าตัดส่องกล้องสามารถใช้ได้กับหลายโรคทั่วไป ทั้งนิ่วในถุงน้ำดี ไส้เลื่อน ไส้ติ่ง ลำไส้ใหญ่ กระเพาะอาหาร ต่อมลูกหมาก และโรคทางนรีเวช เช่น เนื้องอกกล้ามเนื้อมดลูก มะเร็งปากมดลูกระยะต้น มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูกระยะต้น ถุงน้ำรังไข่ และการตั้งครรภ์นอกมดลูก เป็นต้น 

รวมแพ็กเกจผ่าตัดส่องกล้อง โปรโมชันราคาพิเศษที่โรงพยาบาลวิมุต

• โปรแกรมการผ่าตัดไส้ติ่งแบบส่องกล้อง (Lap Appendectomy) 2 วัน 1 คืน จัดการไส้ติ่งที่อักเสบได้ดีกว่าที่เคย ช่วยให้แผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก ลดอาการเจ็บแผล ใช้เวลาในการฟื้นตัวได้เร็วกว่าการผ่าตัดแบบเปิด 
• โปรแกรมการผ่าตัดนิ่วในถุงน้ำดี แบบส่องกล้อง (Lap Cholecystectomy) 2 วัน 1 คืน จัดการนิ่วได้อย่างตรงจุด หมดกังวลเรื่องปวดท้อง แผลเล็ก ฟื้นตัวเร็ว อีกทั้งยังลดการทำลายเส้นประสาทและภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้ออีกด้วย
• โปรแกรมผ่าตัดไส้เลื่อน แบบส่องกล้อง 1 ข้าง (LAP Hernia) 2 วัน 1 คืน ด้วยเทคโนโลยีแบบส่องกล้อง แผลเล็กกว่า เจ็บน้อยกว่า แถมหายไวขึ้น

ข้อจำกัดของการผ่าตัดส่องกล้อง (MIS)

เนื่องจากจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์พิเศษจึงทำให้การผ่าตัดส่องกล้องมีราคาสูงกว่าการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง การผ่าตัดใช้เวลานานขึ้น และในบางโรคไม่สามารถทำได้จึงต้องได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ก่อนเสมอ ทั้งศัลยแพทย์ต้องมีความชำนาญในการผ่าตัดส่องกล้องอีกด้วย 

การผ่าตัดส่องกล้องเป็นทางเลือกที่ดีอีกทางหนึ่งในปัจจุบันที่เข้ามาลดข้อจำกัดในการผ่าตัดเปิดหน้าท้อง ทั้งในด้านของแผลผ่าตัดที่เล็กลง ลดภาวะแทรกซ้อน ลดความเจ็บปวด หรือแม้กระทั่งลดเวลาในการพักฟื้น สามารถทำให้ผู้ป่วยกลับมาใช้ชีวิตตามปกติได้เร็วยิ่งขึ้น และถึงแม้การผ่าตัดส่องกล้องจะมีข้อดีมากมาย แต่เป็นเทคนิคการผ่าตัดที่จำเป็นต้องใช้ศัลยแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญสูง ดังนั้นควรปรึกษาแพทย์เฉพาะทางโดยตรงเพื่อหาแนวทางการรักษาที่เหมาะสมที่สุด ที่โรงพยาบาลวิมุตมีความพร้อมทั้งด้านอุปกรณ์ ห้องผ่าตัดได้มาตรฐาน และทีมแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการผ่าตัดส่องกล้องโดยเฉพาะพร้อมให้บริการ

 

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและนัดหมายแพทย์ได้ที่
ศูนย์ศัลยกรรม ชั้น 4  โรงพยาบาลวิมุต 

เวลาทำการ 08.00-20.00 น. โทร. 0-2079-0040 

หรือดาวน์โหลด ViMUT Application เพื่อนัดหมายแพทย์ หรือบริการปรึกษาหมอออนไลน์